โปรดทราบ

ร่วมแจ้งข่าวสารต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน "เมืองแกลงนิวส์" ได้ที่ muangklangnews@gmail.com เพื่อที่กองบรรณาธิการข่าวจะได้พิจารณานำเผยแพร่ต่อไป

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทั้งพื้นที่ปลูก ทั้งหลุม และต้นกล้า ๓๖๐๐ ต้นพร้อมแล้ว...เมืองแกลงยึดคืนพื้นที่ถนนมาปลูกไม้สนรักษาระบบนิเวศน์ริมคลอง ๓๐ กรกฎาคมนี้

แนวถนนเดิมเลาะริมคลองที่เทศบาลแผ้วถางหญ้าออกเตรียมปลูกต้นสน
       วันจันทร์ที่ ๓๐ กรกฎาคม ศกนี้ เทศบาลตำบลเมืองแกลง ขอเชิญร่วมก้นปลูกต้นสนจำนวน ๓๖๐๐ ต้น บริเวณริมน้ำคลองประแส พื้นที่ชุมชนบ้านแหลมยาง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชมีพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา โดยนัดกันเดินทางด้วยรถขสมก. จากหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเมืองแกลงในเวลา ๙ นาฬิกา

ต้นสนอายุสองปีที่เจริญเติบโตได้ดี สามารถช่วยป้องกันการรุกที่ริมน้ำอันจะทำให้ระบบนิเวศน์คลองเสียหาย
โดยเฉพาะการเป็นแหล่งอยู่อาศัยของสัตว์น้ำขนาดเล็ก
      โครงการปลูกต้นสนริมน้ำคลองประแส ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปีติดต่อกันมาถึงปีที่ ๗ แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีตมีการขุดลอกดินขึ้นมาทำถนนตลอดแนวคลองประแส ฝั่งตรงข้ามชุมชนบ้านแหลมยาง ทำให้ต้นไม้จำนวนมากได้รับความเสียหาย อีกทั้งพื้นที่ริมน้ำจำนวนไม่น้อย มีการขุดบ่อเลี้ยงกุ้งไปชิดริมคลอง ทำให้ระบบนิเวศน์ริมน้ำอันเป็นที่อนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็กต้องเกิดความเสียหาย ปริมาณสัตว์น้ำลดลง  

       เมื่อได้มีการสำรวจพื้นที่ริมน้ำที่ยังไม่มีการพัฒนา แต่มีการขุดลอกดินขึ้นมาทำถนนแล้ว จึงพบว่ายังมีบริเวณอีกจำนวนไม่น้อย ที่ระบบนิเวศน์ริมน้ำยังอยู่ในสภาพดี  เทศบาลฯ จึงได้เริ่มโครงการนำต้นสนมาปลูกมีความกว้างตั้งแต่ ๓ ถึง ๖ เมตรบนถนนที่ตัดไปตามแนวริมน้ำ เพื่อใช้เป็นแนวป้องกันไม่ให้ระบบนิเวศน์ริมน้ำได้รับความกระทบกระเทือน โดยต้นสนที่ได้ปลูกไว้ในปีแรก มีความเสียหายน้อย เพราะเป็นต้นไม้ที่ทนกับสภาพดินริมน้ำได้ดี สามารถตัดมาใช้ในภารกิจของเทศบาลได้แล้ว และเทศบาลฯ ได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมกันปลูกมาโดยตลอด

แผนภูมิแนวถนนเดิมที่เตรียมปลูกสนป้องกันการคุกคามระบบนิเวศน์ริมฝั่ง
       ล่าสุด คาดว่าการเตรียมการเบิกกรุยแผ้วถางป่าหญ้าบนถนนริมน้ำ และการเตรียมขุดหลุมซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วกว่าห้าวัน จะแล้วเสร็จทันก่อนวันจันทร์ที่ ๓๐ นี้อย่างแน่นอน

บริเวณสีเขียวอ่อนคือแนวพื้นที่ปลูกครั้งนี้
     
จึงขอเชิญชวนชาวเมืองแกลงได้มาช่วยกันปลูกต้นสนเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ริมน้ำ รักษาพื้นที่แหล่งกุ้งหอยปูปลาตามวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมกัน

   

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เมืองแกลงชวนเมืองใต้เขื่อนทั้งเทศบาลฯ อบต...บุกประสานงานกับทีมเขื่อนโครงการประแสถึงที่...รับฤดูฝนนี้

เวทีการประชุมเตรียมการระบายน้ำรับฤดูฝน ณ เขื่อนโครงการประแส
อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
       วันพุธที่ ๑๘ กรกฎาคมนี้ เทศบาลตำบลเมืองแกลงนัดหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสมาชิกสภาเทศบาลฯ ผู้นำชุมชนในพื้นที่ และผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ทั้งเทศบาล และอบต. ที่มีพื้นที่อยู่ด้านทิศใต้เขื่อนโครงการประแส ที่อำเภอวังจันทร์ ไปร่วมประชุมเพื่อการรับทราบข้อมูลพื้นที่เกี่ยวกับเขื่อนและปริมาณน้ำ ตลอดจนการซักซ้อมเตรียมการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเขื่อนซึ่งนำโดย นายเชษฐา ดิษยมาลย์ ผู้อำนวยการโครงการเขื่อนประแส

ผู้แทนจากภาคชุมชนและหน่วยงานทรัพยากรชายฝั่ง
       เนื้อหาการประชุม ในส่วนของเขื่อนได้ให้ข้อมูลพื้นฐานของภารกิจ และได้แจ้งว่าแต่ต้นปีนี้ มีปริมาณน้ำเข้าเขื่อนมากกว่าปีกราย แต่ได้เริ่มพร่องน้ำมาแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยไม่รอถึงเดือนพฤษภาคมเช่นปีที่แล้ว ทำให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำได้มากกว่าเดิมหากมีปริมาณฝนมาก อย่างไรก็ดี น้ำที่ไหลลงคลองประแสตลอดลำคลองนั้น เขื่อนสามารถรับน้ำได้เพียง ๑ ใน ๓ เท่านั้น ที่เหลืออีก ๒ ใน ๓ มาจากคลองสะพาน และมือคลองต่าง ๆ ที่อยู่ด้านใต้ของเขื่อน 


       เหตุดังกล่าว ที่ประชุมจึงได้เห็นพ้องให้มีการขุดลอกคลอง เพื่อให้น้ำมีพื้นที่ได้ไหลในที่ ๆ ควรจะไหล โดยมุ่งเน้นให้แต่ละท้องถิ่นพยายามใช้ศักยภาพขีดความสามารถด้วยตนเองดำเนินการก่อนเป็นเบื้องต้น เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

       ทั้งนี้ ในส่วนของเทศบาลตำบลเมืองแกลง ที่นับเป็นชุมชนริมน้ำที่มีขนาดครัวเรือนและประชากรมากที่สุด ได้มีการเตรียมการป้องกันปัญหาอุทกภัยไว้แล้ว ทั้งการขุดลอกที่ได้ปฏิบัติอยู่ทุกปี การทำคันดินเสริมให้คันคลองมีระดับสูงขึ้น การแจ้งข้อมูลข่าวสารเรื่องน้ำผ่านระบบ SMS ทางโทรศัพท์มือถือของประชาชนในเขตพื้นที่เสี่ยง ความพร้อมของเครื่องสูบน้ำและการควบคุมประตูระบายน้ำในบางพื้นที่ ฯ

       และจากนี้ไป เทศบาลฯ จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขื่อนโครงการประแส สื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลรายละเอียดปริมาณน้ำในทุก ๆ วัน เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัวต่อไป

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ใครไป...ใครมา...ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองเรา....

       เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๙ มิถุนายน ที่ผ่านมานี้ ดร.วทัญญู ณ ถลาง ผู้มีผลงานด้านสถาปัตยกรรม ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพร้อมคณะ...แวะมาเยี่ยมเมืองแกลง ด้วยเมื่อหลายปีก่อน ท่านเคยได้เดินทางมาให้คำแนะนำด้านการจัดการเมืองและสิ่งแวดล้อมแล้วหนหนึ่ง..และครั้งนี้ นายธงชัย จิรวิวัฒน์วนิช ได้นำชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ โดยเทศบาลฯ ได้รับคำแนะนำจากท่านว่า......"ให้ใช้สติปัญญาช่วยกันพยายามอย่าให้เมืองแกลงโตไปกว่านี้"...ในความหมายของการรักษาความสมดุลย์ให้ดำรงอยู่ในทุก ๆ ด้าน เพื่อมิให้เกิดปัญหามลภาวะต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบถึงพี่น้องประชาชน..........

       วันศุกร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม คุณยุวรัตน์ กมลเวชช อดีตคณะกรรการการเลือกตั้ง ในฐานะที่ปรึกษาของตลาดสดยิ่งเจริญ เขตดอนเมือง เดินทางมาพร้อมคณะ เพื่อศึกษากระบวนการจัดการของเสียที่เมืองแกลง โดยเป็นการเดินทางมาครั้งที่ ๒ เพื่อนำไปปรับใช้กับตลาดสดยิ่งเจริญที่มีปริมาณขยะสดมากถึงวันละเกือบยี่สิบตัน...ทั้งนี้ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้ด้านการจัดการตลาดกับเทศบาลและผู้ประกอบการในพื้นที่เทศบาลตำบลเมืองแกลง เพื่อพัฒนาสู่ความเป็นตลาดสดที่ถูกสุขลักษณะยิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป

       วันอังคารที่ ๑๗ กรกฎาคม คุณสุนทรี โตวิวัธ ประธานชมรมร้านอาหารและหาบเร่แผงลอย เทศบาลตำบลเมืองแกลง พร้อมคณะ และคุณแก้ว อุฬารวิริโย ผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดระยอง ได้เข้าพบนายกเทศมนตรีตำบลเมืองแกลง เพื่อมอบเงินจำนวน ๕,๐๐๐ บาท และ ๑๐,๐๐๐ บาท ตามลำดับ เพื่อสมทบเป็นทุนในการก่อสร้างและพัฒนาโรงเรียนอยู่เมืองแกลงวิทยาและภูมิทัศน์สนามกีฬาและสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พระพรรษาต่อไป ในการนี้ เทศบาลฯ ได้นำชมกระบวนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนอยู่เมืองแกลงวิทยา พร้อมสถานที่ศูนย์การเรียนรู้เรื่องการลดภาวะโลกร้อนของเทศบาลฯ  ขณะที่ชมรมร้านอาหารฯ เตรียมที่จะให้ความร่วมมือในการหาบุคลากรมาทำแปลงเพาะปลูกพืชผัก ณ บริเวณเดียวกันนี้ เพื่อให้เป็น "สวนสาธารณะกินได้" สำหรับเป็นข้อคิดแนวทางในการดำเนินชีวิตแก่ผู้สนใจ ที่ในระบบเมืองควรให้ความสำคัญกับความอุดมสมบูรณ์แห่งข้าวปลาอาหาร.........ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้
       

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

งานอนุรักษ์บ้านไม้เก่าเมืองแกลงงวดเข้ามาทุกที...อีกอึดใจเดียวจะแล้วเสร็จ..เตรียมบรรจุนิทรรศการโลกร้อนลเป็นลำดับต่อไป




      ขณะนี้..งานทาสีรักษาเนื้อไม้เพื่ออนุรักษ์บ้านไม้เก่าใกล้บรรลุแล้ว..คงเหลือแต่เพียงทาสีพื้นบ้านทั้งสองชั้นรอบสุดท้าย.และภายในสัปดาห์หน้า งานวางพื้นชานหน้าบ้านพร้อมลงสีที่จะเริ่มแต่พรุ่งนี้จะแล้วเสร็จเช่นกัน...ก่อนที่จะเพิ่มเติมกันสาดหน้าต่างรอบบ้านต่อไปภายหน้า


       เมื่องานแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์ ขั้นต่อไปทางสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยจะพางานนิทรรศการที่ทีมสถาปนิกจากเชียงใหม่ได้มาลงพื้นที่แล้วสองรอบ บรรจุเข้าไว้ในอาคารต่อไป โดยภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะร่วมกับเทศบาลตำบลเมืองแกลงประมวลผลเนื้องานนิทรรศการรอบสุดท้ายก่อนที่จะออกแบบจัดทำรูปแบบนิทรรศการต่อไป


      เมื่อกล่าวถึงคำว่า "บ้าน"...ถือเป็นหน่วยสำคัญลำดับต้น ๆ ของคำว่า "เมือง"...หากคนในบ้านช่วยกันให้น้ำหนักคุณค่างานออกแบบบ้าน ไม่แต่ไว้ใช้อยู่อาศัย ทำมาหากินเพียงอย่างเดียว แต่ให้ "บ้าน" บอกความคิด บอกความเป็นบ้านเมืองของเราให้คนรุ่นต่อไปได้อ่านได้ศึกษา แม้อาจต้องเพิ่มเงินก่อสร้างหรือเสียเวลาเพิ่มสักนิด... มันจะยังประโยชน์ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าการมุ่งรักษาแต่บ้านสมัยก่อน....เพราะหากเราลงมือทำวันนี้อย่างให้คุณค่า....พรุ่งนี้ก็เป็นอดีตอันน่าจับตาสนใจแล้ว.............


      บริเวณศูนย์การเรียนรู้ เรื่อง Climate Change ของเมืองแกลงที่มี TEI เป็น Coordinator ภายใต้การร่วมสนับสนุนจาก Toyota Motor Thailand Co.Ltd. จะยังคงมีงานต่อเติมก่อสร้างบ้าน ๒ ชั้นอีก ๑ หลังเรือนต่อจากหลังนี้ในอีกไม่ช้า....เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่แลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้ในความเป็น Low Cabon City ที่เราทั้งหลายจะร่วมคิดร่วมลงมือกันได้ทุกท่านทุกคน เพื่อความน่าอยู่ของบ้านเมืองต่อไป

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ขบวนแรกเคลื่อนแล้ว...มูลฝอยในหลุมฝังกลบของเมืองแกลงมุ่งสู่การเผานำความร้อนไปใช้ประโยชน์




..แต่เย็นวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กรกฎา..ขยะจากหลุมฝังกลบของเมืองแกลงเที่ยวแรกได้ถูกลำเลียงขึ้นจากหลุมไปใช้ในวัตถุประสงค์ของการเป็นเชื้อเพลิง ทดแทนหรือเสริมเชื้อเพลิงหลักอย่างถ่านหิน น้ำมัน และไฟฟ้า เพื่อเอาความร้อนไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว....


โดยที่เทศบาลฯ มุ่งหวังกรณีดังกล่าวมากกว่าการเผาทิ้งเพียงเพื่อให้ขยะหายไปจากโลกเท่านั้น..จึงวันนี้แม้เมืองแกลงจะยังไม่สามารถสร้างกระบวนการนำเอาพลังงานความร้อนไปใช้ประโยชน์ได้ด้วยตนเอง แต่ก็เห็นว่า วิธีให้หน่วยที่แข็งแรงกว่านำไปใช้ประโยชน์ จะมีส่วนทำให้โลกถูกเจาะ ขุด สูบ ดูดจนต้องเจ็บและเสียสมดุลย์ช้าลง..


ปัจจุบัน..เมืองแกลงมีกระบวนการหลายอย่างสำหรับขยะ ในระหว่างทางจากบ้านสู่หลุม..ซึ่งทำให้ปริมาณขยะกว่า ๒๐ ตันลดลงเหลือราว ๑๖ - ๑๗ ตัน..ขณะที่ยังมีภาระจัดการควบคุมมูลฝอยให้กับเทศบาล,อบต. ใกล้เคียงรวม ๑๐ แห่งอีกวันละ ๒๐ - ๒๕ ตัน


ทันทีที่เกิดขยะขึ้น ๑ กิโลกรัม นั่นหมายถึงงบประมาณต้องเสียไป ๑ บาททันที..เหตุดังกล่าว จึงต้องหาสรรพวิธีลดปริมาณขยะลง เพื่อไม่ต้องเสียเงินไปอย่างน่าเสียดายปีละนับล้านบาท...สิ่งที่ดีที่สุดคือ..ต้นน้ำที่หมายถึงบ้าน หากไม่ทิ้งในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ได้..กลางทาง,ปลายทางหรือท้ายน้ำอย่างเทศบาลก็จะลดภาระค่าใช้จ่ายไปได้มาก


สิ่งควรคิดก็คือ..ก่อนจะได้ชื่อว่า "ขยะ"..ของต่าง ๆ ล้วนถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุแร่ธาตุต่าง ๆ ในดินทั้งนั้น กว่าจะถึงมือเรา ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า น้ำมันในการผลิตและขนส่งทั้งสิ้น..ภาวะเหล่านี้คือ..ของใต้พิภพนั้น "หมดแล้วหมดเลย" และะยิ่งคนมากขึ้น บริโภคมากขึ้น ยิ่งต้องเจาะ ขุด สูบ ดูด อันเป็นที่มาของอาการโลกเสียศูนย์... โลกป่วยอยู่ในขณะนี้..