...เทศบาลฯ เริ่มการปูผิวทางแอสฟัลท์ติคคอนกรีต (overlay) ทับผิวทางเดิมบนถนนมาบใหญ่ ที่ผ่านการใช้งานมานานนับสิบปี จากปากทางถนนสุขุมวิท ไปจนเลยศาลเจ้าหนองแตงโม เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการขับขี่สัญจร...จะใช้เวลาตลอดสัปดาห์นี้ โดยขอให้ท่านเดินทางผ่านในบริเวณพื้นที่งานด้วยความระมัดระวัง และขออภัยในความไม่สะดวกและเหตุรำคาญระหว่างการก่อสร้างมายังร้านรวงทั้งสองฟากฝั่งถนนด้วยครับ
โปรดทราบ
ร่วมแจ้งข่าวสารต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน "เมืองแกลงนิวส์" ได้ที่ muangklangnews@gmail.com เพื่อที่กองบรรณาธิการข่าวจะได้พิจารณานำเผยแพร่ต่อไป
วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
ปฐมนิเทศน์ปีการศึกษาที่ ๒ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอยู่เมืองแกลงวิทยา

...เรียนสูง ๆ แล้วไปไกลอกพ่อแม่ นี่ถือว่าทิ้งท่านให้ว้าเหว่ แล้วยังทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนกันเลยทีเดียวไหม......
..."ทุน" ที่จะส่งต่อให้ผู้เรียน ไม่ใช่เงินตรา ทรัพย์ศฤงคาร แต่เป็นทุนทางความคิดอ่าน ทุนภูมิรู้เรื่องราวทางภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ภูมิประวัติภูมิสังคม ภูมิอาชีพ รอบ ๆ ตัวในพื้นที่บ้านเกิดเมืองนอนแห่งตนต่างหาก...
วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
ไม้ เมืองเดิม...ไม้ เมืองแกลง
.... วัดโพธิ์ทองพุทธาราม บ้านหนทางเกวียน ที่พระเจ้าตากสินมหาราชทรงนิมนต์เจ้าอาวาสนาม ชื่น ไปเป็นพระสังฆราชที่กรุงธนบุรีภายหลังทรงกอบกู้เอกราชแล้ว และสุนทรภู่ได้กล่าวในนิราศเมืองแกลงว่าได้มาเยือน...กรมการบ้านดอนเค็ด..แต่เมื่อปีพ.ศ.๒๓๔๙...หากท่านใดแวะไปนมัสการพระครูบุรเขตสังฆการ (พระอาจารย์ต๋อย) ให้ลองแวะไปทางชายคลองหลังโบสถ์อันร่มรื่น ที่มีหมู่ต้นตะเคียนยอดทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ยืนตระหง่านสูงชนิดแหงนคอตั้ง อีกทั้งต้นสำโรงและยางนาก็มี ยืนทนงเป็นเครื่องแสดงร่องรอยของกาลเวลามาถึงวันนี้ได้อย่างชวนชื่นอิ่มเอมใจ
แล้วเลาะไปทางหนเหนือถึงวัดหนองจรเข้ ที่เมื่อเอ่ยถึงวัดนี้ ผู้คนกลับนึกถึงแต่แผงต้นยางนาอายุกว่าสามสิบปีและผืนป่าระดับ..ป่าวิปัสสนา..ในวัดเนื้อที่กว่า ๖๐ ไร่ที่ท่านอาจารย์ดอน เจ้าอาวาสได้ปลูกและทำนุบำรุงมายาวนาน กระทั่งสองปีมานี้ วัดยังได้ชักชวนญาติโยมร่วมทุนทรัพย์จัดหาที่ดินเพิ่มเติมมาอีกถึง ๘๒ ไร่ แลขณะนี้ท่านได้ขุดร่องทางน้ำหมายสร้างความชื้นชุ่ม แล้วนำดินมาถมปรับระดับพอให้พ้นหน้าน้ำเหนือหลาก และเตรียมจะทำพื้นที่นี้ให้เป็นป่าอีก...ท่านว่า " ตัดเขามาใช้มากแล้ว ต้องปลูกใช้คืนเขากันบ้าง".. จึงในเวลาที่พระพิรุณมาหยาดเตือนอยู่เนือง ๆ เช่นนี้ พิจารณาแล้ว วัดกำลังต้องการ "ทุน" ที่หมายถึง ทุนทรัพย์สำหรับจัดหาพันธุ์กล้าไม้แลวัสดุอุปกรณ์ กับ ทุน ที่หมายถึงการลงแรง และ ทุน ที่หมายถึง พันธุ์กล้าไม้ยืนต้นนานาชนิดที่เราท่านจะจัดหาไปช่วยกันได้จากนี้ไป....
วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
บทส่งท้ายการท่องไพรในเมืองแกลงอย่างย่อ

.สามวันในช่วงวันฉัตรมงคล หลายฝ่ายมาร่วมกันคิด ฟังความเห็นกันจนได้แนวทางการจัดการเพื่อเพิ่มชนิดพันธุ์ไม้ไม้ยืนต้นจากเดิมที่มีอยู่ตามแผนงานและพื้นที่เป้าหมายที่กำหนดในเมืองแล้ว ตั้งแต่บริเวณเกาะกลางถนนสุขุมวิิท ถนนบ้านบึง - แกลง ลานจอดรถและคันสระศาลา ๙ เหลี่ยม รวมถึงแนวชายคลองที่โอบสนามกีฬา....ขอบคุณดร.สิรินทร์ แก้วละเอียดและดร.อนงค์ ชานะมูล ผู้มาชี้ทางสว่างสร้างร่มเงาและออกซิเจนไว้ที่บ้านเราด้วยครับ....และในโอกาสถึงหน้าฤดูที่พระพิรุณจะมาเยี่ยมเยือนปีนี้ หาที่เท่าที่มีและพอใจลงต้นไม้กันตามเหมาะสมพร้อม ๆ กันเสียแต่วันนี้เถิดนะครับ....
มีคำน่าสนใจอาทิ "สังคมพืช" " ไม้พี่เลี้ยง" " ป่าชุ่มน้ำพื้นที่ต่ำ" "พันธุ์ไม้ยืนต้นจากชายน้ำชายทะเล ไล่ขึ้นไปจนถึงเขาชะเมา เขาอ่างฤาใน" ฯ.....เราลืมไปเสียสนิทว่ามนุษย์อย่างเรานี้มีต้นไม้เป็นเพื่อนร่วมโลก
ดินน้ำกร่อยอย่างทางเมืองแกลงนี้ ท่านว่ามีไม้ยืนต้นที่มีลำต้นระดับสูงสองชนิดเหมาะเหลือเกินกับที่นี่ คือ ต้นตะเคียนทอง และยางนา...เมื่อย้อนไปดูเอกสารทางประวัติศาสตร์จึงถึงบางอ้อว่า ไม้ตะเคียนทองย่านแขงเมืองแกลงนี้มีชุกชุมและขนาดใหญ่ถึงขั้นต้องเกณฑ์คนทั้งเมืองไปตัดชักลากลงน้ำล่องไปทำเรือพระที่นั่งแต่ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มาแล้ว แลเมื่อครั้งที่เทศบาลฯ ขุดลอกคลองบริเวณโรงเลื่อยเก่าเชิงสะพาน ๑๐๐ ปีบ้านตลาดสามย่านเมื่อเกือบสิบปีล่วงมา ก็ได้พบกับตาว่ามีไม้ยางขนาดใหญ่ที่ซ่อนจมน้ำอยู่ (ไม้ลักษณะนี้เขาเรียก ไม้หมู) รอการลากขึ้นมาเลื่อยจำนวนหลายสิบท่อน ก่อนที่ป่าไม้อำเภอแกลงจะนำไปประมูลจำหน่ายตามระเบียบ
วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
green energy from solarcell
...ท่านที่เคยไปสุขศาลาเยียวยาโลกร้อน เมืองแกลง ที่จัดตลาดกลางแกลงกันทุกวันพุธ... โปรดจงทราบว่าผืนหญ้าที่ท่านให้เกียรติพากันมานั่งทอดหุ่ยเพลินอารมณ์ล้อมวงกันก็ดี แลบรรดาพืชผักจากแผงขายของเทศบาลก็ดี..
เหล่านี้ล้วนมาจากพลังงานสะอาดที่องค์สุริยเทพประทานมาให้ ผ่านกระจกใสของนางเมขลาล่อแก้วเอาแสงมาใส่เก็บไว้ในผอบนางมณโฑ...
อันยามใดที่พืชผักหญ้าและพฤกษาบนผืนโลกต้องการน้ำท่าเพื่อความเขียวขจีอันอุดม พระแม่ธรณีก็มิต้องเพียรบีบมวยผม หมู่มนุษาก็หาจำต้องกระทำพิธีแห่นางแมวไม่ คงปล่อยให้พลังแสงในผอบทำหน้าที่ดั่งพญานาคพ่นน้ำได้อย่างอาจสามารถได้ทุกวัน ๆ ฉะนี้แล....
ต้นทุนการผลิตที่หนักหนาของบรรดาเกษตรกร คือค่าพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันที่ต้องใช้ให้น้ำบำรุงพืชภัณฑ์ธัญญาหาร หากเปลี่ยนมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่เดี๋ยวนี้ราคาย่อมเยาว์ลงมามากได้ คงจะทำให้มีความสุขเรื่องรายได้กันมากขึ้น...
เคยไปนำเสนอในเวทีส่วนกลางว่า ตราบใดที่ผู้มีอำนาจยังตั้งนะโมว่าพลังงานจากธรรมชาติ ทั้งน้ำ ลม แสงแดด ยังถูกกำหนดว่าเป็นเพียงชั้น " พลังงานทางเลือก " อยู่ร่ำไป มันก็จะแค่ถูกเอาไว้ให้เลือกเพียงเท่านั้น... ทำไมไม่ตั้งธงเป็นประธานไปเลยว่า สิ่งเหล่านี้ เป็น " พลังงานทางหลัก " ของชาติ ของโลกนับจากนี้ไป...ถ้าทัศนคติตั้งต้นตรงนี้เปลี่ยน กระบวนคิด กระบวนทำมันจะเปลี่ยนได้อย่างมหาศาล จนอาจจะสามารถปลดแอกภาวะการยอมจำนนที่ต้องก้มหัวรับชะตากรรมเรื่องราคาค่าพลังงานที่กลุ่มทุนคนส่วนน้อยได้ประโยชน์อยู่เพียงเท่านั้นก็เป็นได้
ท่านผู้สนใจเรื่องพลังงานจากแสงแดด ในระดับครัวเรือน บ้านละสี่แผ่นแปดแผ่นเพียงพอที่จะใช้ไฟฟ้าแสงสว่างหรืออุปกรณ์กินไฟหนักอย่างแอร์หรือปั๊มน้ำ โปรดไปหาความรู้ได้ที่ คุณนันท์ ภักดี facebook : phakdee nun กันครับ และเทศบาลมีโครงการจะเปิดอบรมด้วยการลงมือทำ และเรียนรู้ด้วยตนเองในเร็ว ๆ นี้ ท่านยื่นความจำนงได้ที่ผมหรือรอการแจ้งข่าวเพื่อทราบต่อไปครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)