โปรดทราบ

ร่วมแจ้งข่าวสารต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน "เมืองแกลงนิวส์" ได้ที่ muangklangnews@gmail.com เพื่อที่กองบรรณาธิการข่าวจะได้พิจารณานำเผยแพร่ต่อไป

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เยี่ยมเรือนเยือนถิ่นเมืองแกลง ตอนที่ ๔...ดูสวนผลไม้ "เปี๊ยนไป๋"...เพราะย่างกรายสู่สวนอาหารสำหรับบ้านลุงดม

อุดม ชำนาญศิลป์ ยามว่างจากการเป็นพนักงานบริษัท
       เมืองแกลงนิวส์วันนี้ นำท่านพบกับนายอุดม ชำนาญศิลป์ ประธานอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เทศบาลตำบลเมืองแกลง เพื่อเยี่ยมเยียนสวนผลไม้ที่เช่าทำไว้อย่างน่าสนใจจากเพื่อนบ้าน  บนเนื้อที่กว่า ๑๕ ไร่ บริเวณถนนพลงช้างเผือก

       สวนผลไม้สวนนี้ เดิมมีองค์ประกอบของต้นทุเรียนเป็นหลัก และยังมีต้นลางสาด รวมถึงไม้ผลหลากหลายชนิดกระจายอยู่ทั่วไป เพียงแต่ขาดการดูแลรักษา แต่จุดเด่นของสวนริมถนนพลงช้างเผือกแห่งนี้ คือการมีตาน้ำที่ดี มีสระเก็บน้ำอยู่ถึงสามสระที่ไม่เคยแห้ง ทำให้ต้นไม้มีความเขียวสดตลอดปี 

มดเฝ้า...มะม่วง...ลุงดมเฝ้า..ทุเรียน
    





        หลังจากที่คุณอุดมได้เช่าสวนนี้แล้ว ได้ชักชวนคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงมาช่วยกันฟื้นฟูสวน เนื่องจากสวนมีที่ดินกว้างขวาง นอกจากไม้ผลที่มีมาแต่เดิมแล้ว คุณอุดมแกมานั่งคิดว่า ลำพังปลูกแต่ผลไม้ ต้องดูแลกันทั้งปี และได้ผลปีหนึ่งเพียงครั้งเดียว หนำซ้ำต้องไปแย่งกันขายเพราะผลไม้ออกพร้อมกัน   แกจึงได้หันมาปลูกพืชสมุนไพร พืชเครื่องเทศ และพืชเก็บเกี่ยวระยะสั้น อาทิ ข้าวโพด เป็นต้น รวมถึงพืชจำพวกเด็ดผล เช่น พริกขี้หนู เด็ดใบ เช่น ใบมะกรูด และพืชจำพวกผักเพิ่มเข้าไปอีก ประมาณว่าปลูกของที่หยิบฉวยมาปรุงเป็นอาหารได้ง่าย ๆ  ทั้งยังเลือกที่จะทำปุ๋ยน้ำจุลินทรีย์ที่หมักจากเศษอาหารอันเป็นความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับโรงหมักน้ำจุลินทรีย์ของเทศบาลตำบลเมืองแกลงมาช้านาน มาใช้เป็นปุ๋ยสำหรับบำรุงดินและต้นไม้  พืชผลสมบูรณ์ก็ทำให้เกิดเป็นรายได้เมื่อนำไปจำหน่าย และลดรายจ่ายเมื่อจำเป็นต้องนำไปใช้ปรุงอาหาร

ปลูกข้าวโพดวันนี้...และเตรียมปลูกข้าวนาปีในวันอันใกล้
       ข้อสำคัญ คือ ภาวะอากาศในฤดูร้อนอย่างนี้ เราสามารถเลือกเวลาในการดูแลต้นไม้ โดยไม่ต้องไปตากแดดกลางวัน โดยเลือกมาทำในช่วงเย็น หรืออาศัยแสงสว่างจากหลอดนีออนในช่วงค่ำทำได้ เป็นการออกกำลังกาย และผ่อนคลายความตึงเครียดจากหน้าที่การงานประจำวันได้เป็นอย่างดี  ซึ่งท่านผู้ฟังสามารถที่จะแบ่งเวลามาสนใจการปลูกพืชผล พืชผักได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ตัดสินใจ "ลงมือทำไปทีละน้อย"  เพราะความอุดมสมบูรณ์เรื่องข้าวปลาอาหาร เรื่องพืชภัณฑ์ธัญญาหารของบ้านเมือง มีจุดเริ่มต้ันมาจากคนในบ้านทุกคน และบ้านเรือนทุกหลัง มิใช่เกิดจากการมีหน่วยขายกระจายอยู่ทั่วไปหลายแห่ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคข้าวยากหมากแพง สินค้าทั้งหลายพากันขึ้นราคา เป็นเรื่องที่มีความสำคัญว่า ทำอย่างไรเราจึงจะฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ ก็ต้องเริ่มต้นจากตัวเราเองเป็นสำคัญ ที่ต้องรู้จักพินิจพิจารณาการใช้พื้นที่ว่างบริเวณบ้านให้เกิดประโยชน์ในอันที่จะช่วยลดรายจ่ายค่าครองชีพประจำวันลงได้นั่นเอง ไม่นับรวมถึงคุณค่าของการมีอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ซึ่งเกิดจากการดูแลเพาะปลูกของเราเองไว้รับประทานอีกต่างหาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื่องจากบล็อกนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องราวการดำเนินงานของเทศบาล โปรดให้ข้อสังเกต คำแนะนำ หรือเติมเต็มองค์ความรู้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเมืองต่อไป