โปรดทราบ

ร่วมแจ้งข่าวสารต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน "เมืองแกลงนิวส์" ได้ที่ muangklangnews@gmail.com เพื่อที่กองบรรณาธิการข่าวจะได้พิจารณานำเผยแพร่ต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข้อมูลที่มา ของสะพานเชื่อมแหลมสองแหลม (แหลมท่าตะเคียน แหลมยาง) ตอนที่ ๓

คลิ้กภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่พร้อมคำอธิบาย
       หากพิจารณาพื้นที่ด้านทิศเหนือถนนสุขุมวิทที่ในเขตเทศบาลตำบลเมืองแกลง นับว่ามีการจราจรหนาแน่นน้อยกว่าด้านทิศใต้  สะพานตัวสุดท้ายที่สร้างขึ้นใหม่คือ สะพานโรงประปาบ้านหนองแหวน เมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๑ 

       แต่สำหรับด้านทิศใต้ซึ่งมีประชากรอยู่อาศัยกันมาก และยังผลให้การจราจรคับคั่งในเขตเทศบาลฯ  สะพานตัวสุดท้ายที่ได้ก่อสร้างไว้ คือสะพาน ๑๐๐ ปีบ้านตลาดสามย่าน หรือ "สะพานฝั่งธน" ที่ได้ทำเป็นสะพานคอนกรีตแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ หรือเกือบยี่สิบปีมาแล้ว  ขณะที่ยุคนั้นมีจำนวนครัวเรือนในเขตเทศบาลอยู่ไม่ถึงห้าพันหลังคาเรือน  แต่ปัจจุบันมีถึงเกือบเก้าพันหลังคาเรือน มีสถานประกอบการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น โรงเรียนมีการรับนักเรียนเพิ่มมากขึ้น

       ยิ่งไปกว่านั้นคือ ปัจจุบันเส้นทางสายพลง ทะเลน้อยสามารถเชื่อมต่อไปยังบ้านทุ่งควายกินโดยข้ามคลองประแสที่สะพานบ้านท่ากะพัก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปปากน้ำประแสได้ มีผู้นิยมใช้เส้นทางสายนี้เพื่อขึ้นมาที่ตลาดสามย่านกันมากขึ้น

ภาพแสดงเส้นทางและย่านที่มีประชากรคนและรถคับคั่ง
       ข้อสำคัญคือ แนวถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างจังหวัดระยอง จันทบุรี และจังหวัดตราด ที่เรารู้จักกันในชื่อว่า "ถนนบูรพาชลทิศ" นั้น มีจุดเริ่มต้นในเขตอำเภอแกลงที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่ บนถนนสายสุนทรภู่ ซึ่งตัดเข้าหาพื้นที่เขตชุมชนหนาแน่นของเทศบาลตำบลเมืองแกลงบริเวณวงเวียนใน ก่อนที่จะเลือกไปออกถนนสุขุมวิท หรือไปใช้เส้นทางสายพลงช้างเผือกเพื่อลัดเลาะชายฝั่งทะเลไปจนถึงจันทบุรี และตราดได้ในที่สุด  ปริมาณยานยนต์จึงเพิ่มขึ้นจากการมีการคมนาคมที่ดี

       สภาพการณ์ดังกล่าว จึงส่งผลให้ถนนเทศบาลด้านทิศใต้ถนนสุขุมวิท มีปริมาณยานยนต์เพิ่มมากขึ้นมาก แม้ว่าเทศบาลฯ จะได้พยายามวางมาตรการหลายอย่าง อา่ทิ การออกเทศบัญญัติการจัดระเบียบการจอดยานยนต์ ปีพ.ศ.๒๕๕๐ เพื่อเข้มงวดวินัยจราจรยิ่งขึ้น การส่งเสริมให้ประชาชนทำที่จอดรถให้เช่าในเขตชุมชนหนาแน่น การขอความร่วมมือให้ออกแบบที่จอดรถสำหรับบ้านที่มีบริเวณเหลือ  รวมถึงการนำรถขนส่งเมืองแกลง (ขสมก.) มาวิ่งให้บริการถึง ๔ คันเพื่อลดจำนวนยานยนต์ส่วนตัวลง แต่เป็นที่แน่นอนว่า ยังมีความจำเป็นต้องมีมาตรการให้มากไปกว่านี้ จึงจะสามารถแก้ปัญหาความแออัดคับคั่งของยวดยานลงได้

       เทศบาลฯ จึงได้พิจารณาเรื่องการสร้่างสะพานแห่งใหม่ขึ้นบริเวณแหลมท่าตะเคียน เนื่องจากหากวัดระยะทางทางน้ำ ระหว่างสะพาน๑๐๐ ปีบ้านตลาดสามย่าน (สะพานฝั่งธน) ซึ่งอยู่ในเขตเมืองชั้นใน มีการจราจรคับคั่ง กับสะพานที่บ้านท่ากะพัก ห่างกันถึงร่วม ๑๐ กิโลเมตร  ซึ่งทำให้ขาดการเชื่อมต่อการเดินทางในลักษณะการช่วยระบายการจราจรระหว่างสะพานทั้งสองแห่ง

       หากสามารถก่อสร้่างสะพานเพิ่มขึ้นที่แหลมท่าตะเคียน และก่อสร้างถนนไปเชื่อมกับชุมชนบ้านแหลมยางที่โค้งยายนาง สะพานแห่งนี้จะช่วยให้นักเรียนและคนในระบบโรงงานตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ไปมาระหว่างชุมชนวัดพลงช้่างเผือกกับเส้นทางด้านทิศตะวันออกของเมืองได้สะดวกขึ้น สามารถไปโรงพยาบาลและสถานีตำรวจได้สะดวกรวดเร็วขึ้น...โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าไปแออัดกันในเขตเมืองชั้นในแต่อย่างใด 

       ทั้งนี้ หลักสำคัญคือ เมื่อได้ทำสะพานและถนนดังว่านี้แล้ว ยังต้องตระหนักอยู่เสมอว่า เมื่อสามารถระบายการจราจรให้ออกไปนอกเมืองได้  ในมุมกลับกัน สะพานและถนนดังกล่าว ก็สามารถพายานยนต์เข้ามาแออัดเบียดเสียดในเมืองได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ต้องประเมินว่า อะไรจะเหมาะสมกว่ากันต่อไป 

(ตอนสุดท้าย... พบกับวันออกสำรวจเส้นทาง)

     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื่องจากบล็อกนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องราวการดำเนินงานของเทศบาล โปรดให้ข้อสังเกต คำแนะนำ หรือเติมเต็มองค์ความรู้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเมืองต่อไป