โปรดทราบ

ร่วมแจ้งข่าวสารต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน "เมืองแกลงนิวส์" ได้ที่ muangklangnews@gmail.com เพื่อที่กองบรรณาธิการข่าวจะได้พิจารณานำเผยแพร่ต่อไป

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

overlay ถนนมาบใหญ่



...เทศบาลฯ เริ่มการปูผิวทางแอสฟัลท์ติคคอนกรีต (overlay) ทับผิวทางเดิมบนถนนมาบใหญ่ ที่ผ่านการใช้งานมานานนับสิบปี จากปากทางถนนสุขุมวิท ไปจนเลยศาลเจ้าหนองแตงโม เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการขับขี่สัญจร...จะใช้เวลาตลอดสัปดาห์นี้ โดยขอให้ท่านเดินทางผ่านในบริเวณพื้นที่งานด้วยความระมัดระวัง และขออภัยในความไม่สะดวกและเหตุรำคาญระหว่างการก่อสร้างมายังร้านรวงทั้งสองฟากฝั่งถนนด้วยครับ



I blog with BE Write

ปฐมนิเทศน์ปีการศึกษาที่ ๒ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอยู่เมืองแกลงวิทยา



        เช้านี้เป็นเวลาปฐมนิเทศน์ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอยู่เมืองแกลงฯ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาฯ คุณวิฑิต ลาวัณย์เสถียร ได้มาให้ข้อคิดความมุ่งหวังต่อการจัดการศึกษาของบ้านเรานี้.. ขณะที่เทศบาลฯ ใช้โอกาสนี้ชวนผู้ปกครองฝันร่วมกันที่จะได้เห็น "ผู้หญิงในใจ ผู้ชายในฝัน" อันหมายถึงนักเรียนของเราในวันที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ควรจะเป็นบุคลากรของชาติกันแบบใด....

        ...เรียนสูง ๆ แล้วไปไกลอกพ่อแม่ นี่ถือว่าทิ้งท่านให้ว้าเหว่ แล้วยังทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนกันเลยทีเดียวไหม...... 
..."ทุน" ที่จะส่งต่อให้ผู้เรียน ไม่ใช่เงินตรา ทรัพย์ศฤงคาร แต่เป็นทุนทางความคิดอ่าน ทุนภูมิรู้เรื่องราวทางภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ภูมิประวัติภูมิสังคม ภูมิอาชีพ รอบ ๆ ตัวในพื้นที่บ้านเกิดเมืองนอนแห่งตนต่างหาก...





I blog with BE Write

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไม้ เมืองเดิม...ไม้ เมืองแกลง




.... วัดโพธิ์ทองพุทธาราม บ้านหนทางเกวียน ที่พระเจ้าตากสินมหาราชทรงนิมนต์เจ้าอาวาสนาม ชื่น ไปเป็นพระสังฆราชที่กรุงธนบุรีภายหลังทรงกอบกู้เอกราชแล้ว และสุนทรภู่ได้กล่าวในนิราศเมืองแกลงว่าได้มาเยือน...กรมการบ้านดอนเค็ด..แต่เมื่อปีพ.ศ.๒๓๔๙...หากท่านใดแวะไปนมัสการพระครูบุรเขตสังฆการ (พระอาจารย์ต๋อย) ให้ลองแวะไปทางชายคลองหลังโบสถ์อันร่มรื่น ที่มีหมู่ต้นตะเคียนยอดทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ยืนตระหง่านสูงชนิดแหงนคอตั้ง อีกทั้งต้นสำโรงและยางนาก็มี ยืนทนงเป็นเครื่องแสดงร่องรอยของกาลเวลามาถึงวันนี้ได้อย่างชวนชื่นอิ่มเอมใจ

     แล้วเลาะไปทางหนเหนือถึงวัดหนองจรเข้ ที่เมื่อเอ่ยถึงวัดนี้ ผู้คนกลับนึกถึงแต่แผงต้นยางนาอายุกว่าสามสิบปีและผืนป่าระดับ..ป่าวิปัสสนา..ในวัดเนื้อที่กว่า ๖๐ ไร่ที่ท่านอาจารย์ดอน เจ้าอาวาสได้ปลูกและทำนุบำรุงมายาวนาน กระทั่งสองปีมานี้ วัดยังได้ชักชวนญาติโยมร่วมทุนทรัพย์จัดหาที่ดินเพิ่มเติมมาอีกถึง ๘๒ ไร่ แลขณะนี้ท่านได้ขุดร่องทางน้ำหมายสร้างความชื้นชุ่ม แล้วนำดินมาถมปรับระดับพอให้พ้นหน้าน้ำเหนือหลาก และเตรียมจะทำพื้นที่นี้ให้เป็นป่าอีก...ท่านว่า " ตัดเขามาใช้มากแล้ว ต้องปลูกใช้คืนเขากันบ้าง".. จึงในเวลาที่พระพิรุณมาหยาดเตือนอยู่เนือง ๆ เช่นนี้ พิจารณาแล้ว วัดกำลังต้องการ "ทุน" ที่หมายถึง ทุนทรัพย์สำหรับจัดหาพันธุ์กล้าไม้แลวัสดุอุปกรณ์ กับ ทุน ที่หมายถึงการลงแรง และ ทุน ที่หมายถึง พันธุ์กล้าไม้ยืนต้นนานาชนิดที่เราท่านจะจัดหาไปช่วยกันได้จากนี้ไป....



I blog with BE Write

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บทส่งท้ายการท่องไพรในเมืองแกลงอย่างย่อ



   .สามวันในช่วงวันฉัตรมงคล หลายฝ่ายมาร่วมกันคิด ฟังความเห็นกันจนได้แนวทางการจัดการเพื่อเพิ่มชนิดพันธุ์ไม้ไม้ยืนต้นจากเดิมที่มีอยู่ตามแผนงานและพื้นที่เป้าหมายที่กำหนดในเมืองแล้ว ตั้งแต่บริเวณเกาะกลางถนนสุขุมวิิท ถนนบ้านบึง - แกลง ลานจอดรถและคันสระศาลา ๙ เหลี่ยม รวมถึงแนวชายคลองที่โอบสนามกีฬา....ขอบคุณดร.สิรินทร์ แก้วละเอียดและดร.อนงค์ ชานะมูล ผู้มาชี้ทางสว่างสร้างร่มเงาและออกซิเจนไว้ที่บ้านเราด้วยครับ....และในโอกาสถึงหน้าฤดูที่พระพิรุณจะมาเยี่ยมเยือนปีนี้ หาที่เท่าที่มีและพอใจลงต้นไม้กันตามเหมาะสมพร้อม ๆ กันเสียแต่วันนี้เถิดนะครับ....

       มีคำน่าสนใจอาทิ "สังคมพืช" " ไม้พี่เลี้ยง" " ป่าชุ่มน้ำพื้นที่ต่ำ" "พันธุ์ไม้ยืนต้นจากชายน้ำชายทะเล ไล่ขึ้นไปจนถึงเขาชะเมา เขาอ่างฤาใน" ฯ.....เราลืมไปเสียสนิทว่ามนุษย์อย่างเรานี้มีต้นไม้เป็นเพื่อนร่วมโลก

       ดินน้ำกร่อยอย่างทางเมืองแกลงนี้ ท่านว่ามีไม้ยืนต้นที่มีลำต้นระดับสูงสองชนิดเหมาะเหลือเกินกับที่นี่ คือ ต้นตะเคียนทอง และยางนา...เมื่อย้อนไปดูเอกสารทางประวัติศาสตร์จึงถึงบางอ้อว่า ไม้ตะเคียนทองย่านแขงเมืองแกลงนี้มีชุกชุมและขนาดใหญ่ถึงขั้นต้องเกณฑ์คนทั้งเมืองไปตัดชักลากลงน้ำล่องไปทำเรือพระที่นั่งแต่ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มาแล้ว แลเมื่อครั้งที่เทศบาลฯ ขุดลอกคลองบริเวณโรงเลื่อยเก่าเชิงสะพาน ๑๐๐ ปีบ้านตลาดสามย่านเมื่อเกือบสิบปีล่วงมา ก็ได้พบกับตาว่ามีไม้ยางขนาดใหญ่ที่ซ่อนจมน้ำอยู่ (ไม้ลักษณะนี้เขาเรียก ไม้หมู) รอการลากขึ้นมาเลื่อยจำนวนหลายสิบท่อน ก่อนที่ป่าไม้อำเภอแกลงจะนำไปประมูลจำหน่ายตามระเบียบ



I blog with BE Write

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

green energy from solarcell



 ...ท่านที่เคยไปสุขศาลาเยียวยาโลกร้อน เมืองแกลง ที่จัดตลาดกลางแกลงกันทุกวันพุธ... โปรดจงทราบว่าผืนหญ้าที่ท่านให้เกียรติพากันมานั่งทอดห่ยเพลินอารมณ์ล้อมวงกันก็ดี แลบรรดาพืชผักจากแผงขายของเทศบาลก็ดี..
  เหล่านี้ล้วนมาจากพลังงานสะอาดที่องค์สุริยเทพประทานมาให้ ผ่านกระจกใสของนางเมขลาล่อแก้วเอาแสงมาใส่เก็บไว้ในผอบนางมณโฑ...
       อันยามใดที่พืชผักหญ้าและพฤกษาบนผืนโลกต้องการน้ำท่าเพื่อความเขียวขจีอันอุดม พระแม่ธรณีก็มิต้องเพียรบีบมวยผม หมู่มนุษาก็หาจำต้องกระทำพิธีแห่นางแมวไม่ คงปล่อยให้พลังแสงในผอบทำหน้าที่ดั่งพญานาคพ่นน้ำได้อย่างอาจสามารถได้ทุกวัน ๆ ฉะนี้แล....
       ต้นทุนการผลิตที่หนักหนาของบรรดาเกษตรกร คือค่าพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันที่ต้องใช้ให้น้ำบำรุงพืชภัณฑ์ธัญญาหาร หากเปลี่ยนมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่เดี๋ยวนี้ราคาย่อมเยาว์ลงมามากได้ คงจะทำให้มีความสุขเรื่องรายได้กันมากขึ้น...
         เคยไปนำเสนอในเวทีส่วนกลางว่า ตราบใดที่ผู้มีอำนาจยังตั้งนะโมว่าพลังงานจากธรรมชาติ ทั้งน้ำ ลม แสงแดด ยังถูกกำหนดว่าเป็นเพียงชั้น " พลังงานทางเลือก " อยู่ร่ำไป มันก็จะแค่ถูกเอาไว้ให้เลือกเพียงเท่านั้น... ทำไมไม่ตั้งธงเป็นประธานไปเลยว่า สิ่งเหล่านี้ เป็น " พลังงานทางหลัก " ของชาติ ของโลกนับจากนี้ไป...ถ้าทัศนคติตั้งต้นตรงนี้เปลี่ยน กระบวนคิด กระบวนทำมันจะเปลี่ยนได้อย่างมหาศาล จนอาจจะสามารถปลดแอกภาวะการยอมจำนนที่ต้องก้มหัวรับชะตากรรมเรื่องราคาค่าพลังงานที่กลุ่มทุนคนส่วนน้อยได้ประโยชน์อยู่เพียงเท่านั้นก็เป็นได้
       ท่านผู้สนใจเรื่องพลังงานจากแสงแดด ในระดับครัวเรือน บ้านละสี่แผ่นแปดแผ่นเพียงพอที่จะใช้ไฟฟ้าแสงสว่างหรืออุปกรณ์กินไฟหนักอย่างแอร์หรือปั๊มน้ำ โปรดไปหาความรู้ได้ที่ คุณนันท์ ภักดี facebook : phakdee nun กันครับ และเทศบาลมีโครงการจะเปิดอบรมด้วยการลงมือทำ และเรียนรู้ด้วยตนเองในเร็ว ๆ นี้ ท่านยื่นความจำนงได้ที่ผมหรือรอการแจ้งข่าวเพื่อทราบต่อไปครับ


I blog with BE Write

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

งานวางทางเดินไม้เลียบคลอง ยกพลลอดใต้สะพาน ๑๐๐ ปี บ้านตลาดสามย่าน ขึ้นฝั่งโรงเลื่อยเก่าใกล้ข้ามคลองสู่ลานทุ่งเมืองแกลงแล้ว


       แวะเยี่ยมงานโยธา กองช่างที่เชิงสะพานร้้อยปี (สะพานฝั่งธน) ที่วางทางเดินไม้ลอดใต้สะพานมาขึ้นฝั่งเกาะโรงเลื่อยเสร็จเรียบร้อย และเริ่มวางคอสะพานเตรียมรุกข้ามไปลานทุ่งเมืองแกลงหลังตลาดภิบาล ที่คาดว่าจะใช้เวลาอีก สักหนึ่งวันก็เป็นอันสำเร็จ  จากนั้นจะย้อนกลับมาทำท่าเรือชมคลอง  ท่าชมหนังกลางคลอง และปีนี้จะเพิ่มท่าชมงิ้ว ชมลิเกอีก ๑ แห่งที่เชิงสะพานร้อยปีฯ เพื่อเพิ่มกิจกรรมในคลองมากยิ่งขึ้น

       ด้วยทางเดินไม้ชั่วคราวนี้เองที่ทำให้งานบุญกลางบ้านขยับขยายเพิ่มพื้นที่ออกไปได้กว้าง ครอบคลุมพื้นที่สะดือเมืองอย่างสะพานร้อยปีฯ เชื่อมโยงสู่ถนนสุนทรโวหาร ถึงหน้าที่ว่าการอำเภอแกลงหลังเก่า จนสามารถเดินวนได้รอบ  ขณะที่สะพานไม้ชั่วคราวจากเกาะโรงเลื่อยข้ามสู่ลานทุ่งเมืองแกลง ซึ่งประสบปัญหาการจราจรมนุษย์ติดขัดอัดแน่น  ปีนี้ขยายทางเดินจาก ๑.๒๐ เมตร เพิ่มอีกเท่าเป็น ๒.๔๐ เมตรแล้ว

       จากภาพ เทศบาลฯ คงสภาพของโครงสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่กรมโยธาธิการมาสร้างแทนสะพานไม้ข้ามคลองสามย่านตรงนี้เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๕ ไว้ แล้วออกแบบตกแต่งใหม่ในหลายส่วน คือ ทางเดินเท้าบนสะพานทั้งสองฝั่ง ช่องชมวิวทัศนีภาพแยกจากทางเดินเท้า เสาสะพานทั้งสี่ด้านพร้อมภาพเก่าในแต่ละยุคของสะพานนี้ ด้านบนเสาบันทึกเรื่องราวสำคัญ ๆ แปดเรื่องของเมืองแกลงเอาไว้บนแผ่นวัสดุอัลลอยด์  ตัวเสาออกแบบคล้ายประภาคารเรือเพื่อสื่อความหมายของวิถีชีวิตในอดีตที่อาศัยเรือและคลองในการเดินทางทำมาค้าขาย  กำเกวียนข้างเสาสื่อความหมายถึงตำบลทางเกวียน  แลระเบียงข้างทางเดิน เป็นลวดลายเถาองุ่นที่นำแบบมาจากบ้านเถ้าแก๋หลาย เจริญขวัญ คหบดีหน้าที่ว่าการอำเภอแกลงหลังเก่า ที่มีส่วนสำคัญในการรวบรวมเงินบริจาคของชาวเมืองแกลงได้ถึง ๑,๐๖๔ บาทสำหรับการสร้างสะพานไม้ความยาว ๓๒ เมตร ตรงจุดนี้เมื่อปีพ.ศ.๒๔๖๖ ตามที่ปรากฎอยู่ในหนังสือราชกิจจานุเบกษา

       เชิญชาวเมืองแกลง แลที่อยู่ละแวกใกล้เคียงตลอดจนผู้สนใจ ร่วมสัมผัสกลิ่นอายจากวิถีธรรมชาติแห่งแกลง ในเทศกาลงานบุญกลางบ้าน ๑๗ ถึง ๒๔ มีนาคมนี้ที่ท่าน้ำศาลาต้นโพธิ์ ซอยศรีประชุมชลกันครับ (เฉพาะเย็นวันที่ ๑๗ ที่สนามกีฬาฯ ในพิธีเปิดศาลา๙ เหลี่ยมฯ)


I blog with BE Write

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

"สุขศาลาเยียวยาโลกร้อน เมืองแกลง" ผ่านสภาฯ เอกฉันท์..ประสานงานช่างตกแต่งรอบสุดท้ายแล้ว... preparing for Take off... 4 มีนาคมนี้ทันที...



พฤหัสที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ สภาเทศบาลตำบลเมืองแกลงผ่านความเห็นชอบญัตติต่าง ๆ รวม ๑๓ ญัตติ มุ่งแก้ไขงานโครงสร้างพื้นฐาน และเพิ่มไฟฟ้าแสงสว่างให้ได้เกณฑ์มาตรฐานในระบบเมือง พ่วงงานตกแต่งบ้านก๋ง บ้านย่า บ้านธรณิน ( บ้านดิน ) พร้อมเริ่มงานจันทร์ที่ ๔ มีนาคมนี้ทันที

เนื้อหางานออกแบบนิทรรศการ เริ่มจากปัญหาสภาวะโลกร้อนสากล คืนสู่สามัญระดับท้องถิ่น และย้อนนำวิถีชีวิตคนย่านหัวเมืองชายน้ำชายทะเลเช่นที่แกลงในอดีตมาเป็นข้อเปรียบเพื่อให้ได้ข้อสังเกตเพื่อการดำเนินชีวิตภายใต้ร่มของธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่อยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลสำหรับปัจจุบันและอนาคต ซึ่งผู้แทนจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และทีมสถาปนิกผู้ออกแบบได้ลงพื้นที่ริบสุดท้ายในการตรวจสอบและประสานงานผู้เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทุกส่วนฝ่ายในการเตรียมงาน มุ่งหน้าให้สำเร็จทันวันศุกร์ที่ ๒๒ มีนาคม ศกนี้สำหรับพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในเทศกาลงานบุญกลางบ้าน ปีที่ ๑๐ นี้


I blog with BE Write

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คนหัวซอยยายนาง ชุมชนบ้านแหลมยาง เขยิบคั่วแกงเป็ดลูกกล้วยลือชื่อ กระเดียดกระจาดผักสดแตะตลาดกลางแกลงแล้ว


  


  

       หลากลีลาพาใจไปตามฝันกับพุธที่ ๒๗ นัดที่ ๑๒ นี้เริ่มต้นที่กลุ่มคนใจดีหมู่เจ๊ติ๋มเกษมพานิชพาเอารังนกปรุงกับแปะก๊วยมาขายกันถ้วยละสามสิบ ตั้งใจรวมเงินที่ได้ไปให้โรงพยาบาลแกลงหมายทำบุญ..ขอบุญหนุนนำให้งามถึงพันปี......
       อีกหนึ่งโครงการดี ๆ กับผักสดจากโรงเรียนชำนาญสามัคคีฯ ชนิดที่ท่านผอ. ต้องขอมาชื่นชมอมยิ้มกับลูกศิษย์แตะขอบแคร่.....

       ไอ้เสือยิ้มยากอย่างคนเยอรมันจาก GIZ ที่เลือกวันมาทำงานกับเมืองแกลงเป็นวันพุธ มาฟอร์มหลุดปล่อยยิ้มกับผลไม้และขนมรสชาดสารพัด ส่วนแหม่มเยอรมันเธอดีใจได้เมล็ดผักกลับไปเบอร์ลิน แม้ที่โน่นต้องรอถึงพฤษภากว่าจะปลูกได้ เธอยังไม่ยักจะท้อ.....
       กองสาธารณสุขฯ รุดตรวจสารตกค้างในผักกันถึงที่ ข่าวดีไม่มีสารพิษตกค้าง  แถมยังโชว์ถังขยะประดิษฐ์จากขวดยาคูลท์ พร้อมเชิญชวนให้ท่านแยกระหว่างขยะสด กับขยะทั่วไป......

       ติดใจน้ำหมักมูลไส้เดือนที่ซื้อไปใช้แล้วเห็นผล... คนจากสมาคมฌปนกิจสงเคราะห์อ.แกลง เธอหยิบรวบที่เดียวสี่ขวด เพราะที่นี่ไม่มีถุงให้ เดินเอาไปใส่รถแล้วกลับมาเอาใหม่ ทำเอาคนขายชื่นใจ ๆ .......
       ฝ่ายแม่ยายนายกจำเนียรที่ทำสลิ่มรวมมิตร และสาคูอยู่หน้าโรงหนังสามย่านรามาแบบตำนานเรียกพี่ที่รู้จักกันดีค่อนตลาด ขยับทำสาคูมาขายก่อน เพราะเครื่องมือทำสลิ่มรวมมิตรมันไปหมดแล้ว...

       เปิบข้าวบนใบตอง หม่ำข้าวบนใบบัว บนพื้นสนามหญ้า ประหนึ่งสูงสุดคืนสู่สามัญยังไงชอบกล ออกรสทั้งอาหารและยิ้มชวนหัว
       ทัพครัวบ้านแหลมยางเขยิ้บ เขยิบเข้ามาใกล้ ๆ หลายรายมากขึ้น ๆ ทั้งผัก ทั้งขนม และที่รอให้มาชมมาชิมกันนั้นคือแกลงเป็ดแหลมยางใส่กล้วยดิบ.. หร่อยไม่หร่อยไม่รู้ ได้แต่ยืนน้ำลายสออยากขอราดข้าวเพิ่มอีกซักจาน


I blog with BE Write

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แปลงแสงเป็นกระแสไฟฟัาขนาด ๑๐ แอมป์ พร้อมจ่ายเข้าศุขศาลาเยียวยาโลกร้อน เมืองแกลงทั้งสี่อาคารแล้ว

 


       หลังจากใช้เวลาราวสองวันในการเชื่อมตัดเหล็กทำโครงและขึ้นแผงโซล่าร์เซลขนาด ๑๒๕ วัตต์ จำนวน ๑๘ แผ่นไว้บนหลังคากระเบื้องว่าบ้านดินสำเร็จ และทดสอบกระแสไฟฟ้าที่ได้จากแบตเตอรี่หมดอายุซึ่งนำมาปรับเติมกรดใหม่แล้ว เทศบาลฯ ยังได้ติดตั้งมิเตอร์วัดหน่วยกระแสไฟฟ้าที่ได้เพื่อจัดเก็บเป็นข้อมูลสำหรับขยายผลต่อไป

       เป้าหมายสำคัญคือการแปลงแสงให้เป็นกระแสไฟฟ้าแล้วจ่ายเข้าหมู่เรือน "ศุขศาลาเยียวยาโลกร้อน" ทั้งสี่หลังทั่วบริเวณนี้ บวกรวมกับปั๊มน้ำขนาด ๒ แรงม้าอีกสองเครื่องที่ใช้รดน้ำต้นไม้ เพื่อความประหยัด และเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งพลังงานทางเลือกสำหรับวันที่ราคากระแสไฟฟ้าจากพลังงานก๊าซธรรมชาติ พลังน้ำ และพลังถ่านหินมีแต่จะแพงขึ้น ๆ ทั้งแผ่นดิน ด้วยวัตถุดิบลดลง ไม่นับรวมนโยบายจากฝ่ายการเมืองที่ไม่เคยสร้างความสบายใจให้ฝ่ายผู้เลือก

       นันท์ ภักดี ผู้เชี่ยวชาญในการทำเรื่องไฮเทค ให้โลว์เทค...ผู้เห็นว่าต้นทุนสำคัญอย่างหนึ่งของเกษตรกรคือค่าพลังงานเหล่านี้ เดินทางมานอนค้างอ้างแรมอยู่เมืองแกลง ๒ คืน ประสาคนธุระน้อย แต่มีงานมาก คราวนี้มอบบทเรียนที่เขียนบทกระดาษกล่องไม่เพียงแต่กองช่างที่นี่เท่านั้น แต่ยังมีกองช่างอีกหกคนจากเทศบาลเมืองทุ่งสง นครศรีธรรมราช ที่เดินทางกลับมาใหม่โดยทิ้งช่วงเพียงสองวัน ภายหลังจากที่นายกเทศมนตรีทรงชัย แห่งทุ่งสงเดินทางมาเห็นกับตาแล้วรอบหนึ่งเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ไม่นับรวมช่างไฟบ้านในพื้นที่ ที่เกาะติดเอาความรู้อยู่ตลอดเช่นกัน

       ศุขศาลาเยียวยาโลกร้อน เมืองแกลง คือศูนย์การเรียนรู้ทั้งด้านสภาวะโลกร้อน แนวทางการต่อกร และด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางศิลปกรรมประจำถิ่นเมืองแกลงในส่วนของเรือนพักอาศัยที่สร้างจากเนื่อดิน ชิ้นไม้ และคอนกรีต โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ ๒๒ มีนาคม เวลา ๙ นาฬิกาที่จะถึงนี้


I blog with BE Write

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แวดวงวาระเด็กและเยาวชนเมืองแกลงเดินหน้างานต่ออีกหลายส่วน





    คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนอยู่เมืองแกลงวิทยาจัดประชุมขึ้น พลันที่คณะกรรมการฯ ชุดก่อตั้งสิ้นสุดวาระลง โดยที่ประชุมให้เพิ่มจำนวนคณะกรรมการขึ้นอีกเพื่อความหลากหลายทางความคิดเห็น และยังขอให้เทศบาลฯ นัดประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจในทิศทางที่มาที่ไปของการก่อตั้งโรงเรียนขึ้นอีกคำรบหนึ่ง นอกจากนี้ยังขอให้เพิ่มการเล่านิทานขึ้นอีกเพื่อให้เด็กคิดสร้างจินตนาการต่อไป

       ด้านศ.ดร.เยาวพา เดชะคุปต์ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบหลักสูตรสำหรับเด็กปฐมวัยพร้อมคณะลงพื้นที่เมืองแกลงสี่วันเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เพื่อพัฒนาการประเมินคุณภาพการศึกษาและอบรมเพิ่มเติมกิจกรรมประจำวันแก่ครูผู้สอน ด้วยในปีการศึกษาใหม่นี้ เทศบาลฯ จะเปิดรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๑ ขึ้นใหม่อีกรุ่นหนึ่ง และเปิดรับในระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ อีก ๑ ห้องเรียน โดยมีค่าใช่จ่ายต่าง ๆ เทอมละ ๔๕๐๐ บาทตามมนิที่ประชุมคณะ

       ข้ามฟากไปที่คณะกรรมการกองทุน สปสช. อนุมัติโครงการสนับสนุนกีฬามวยไทยแก่ครูสมศักดิ์ สิงห์เขื้อเพลิง โดยขณะนี้ได้จัดซื้ออุปกรณ์มวยเพื่อใช้ฝึกซ้อมเยาวชนแล้ว และได้รับการสนับสนุนด้านสถานที่ฝึกซ้อมจากโรงเรียนแกลง วิทยสถาวรที่ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้       ด้านศ.ดร.เยาวพา เดชะคุปต์ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบหลักสูตรสำหรับเด็กปฐมวัยพร้อมคณะลงพื้นที่เมืองแกลงสี่วันเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เพื่อพัฒนาการประเมินคุณภาพการศึกษาและอบรมเพิ่มเติมกิจกรรมประจำวันแก่ครูผู้สอน ด้วยในปีการศึกษาใหม่นี้ เทศบาลฯ จะเปิดรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๑ ขึ้นใหม่อีกรุ่นหนึ่ง และเปิดรับในระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ อีก ๑ ห้องเรียน โดยมีค่าใช่จ่ายต่าง ๆ เทอมละ ๔๕๐๐ บาทตามมนิที่ประชุมคณะกรรมการ

       ฝ่ายงานก่อสร้างอาคารเรียนหลักของโรงเรียนอยู่เมืองแกลงที่มีเป้าหมายให้ทันเปิดใช้งานในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ขณะนี้การติดตั้งระเบียงลูกแก้วที่มีรูปทรงเฉพาะตัว ที่ต้องสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษใกล้จะแล้วเสร็จทั้งสามชั้น และเริ่มทดสอบการลงสีเพื่อให้ได้ตามเฉดสีที่ออกแบบไว้ต่อไป






I blog with BE Write

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ก่อนสิ้นกุมภา.."บ้านย่า" ได้เห็นหน้าเห็นหลังทันการ งานตกแต่งนิทรรศการพร้อมรับช่วงเข้าพื้นที่ทันที



       "บ้านย่า"...เรือนสองชั้น กว้าง ๑๖ ลึก ๖ เมตรพร้อมทางเดินเชื่อมกับเรือน "บ้านก๋ง" ที่ได้เริ่มลงมือยกกันมาแต่ต้นเดือนมกรานี้ด้วยการระดมช่างจำนวนมาก ขณะนี้เหลือเพียงงานติดตั้งประตูหน้าต่างบานเฟี้ยมหลังลงสีรักษาเนื้อไม้จนเรียบร้อยก่อน งานตกแต่งบันได งานปรับภูมิทัศน์ด้านหน้าและหลังอาคารเท่านั้น เทศบาลฯ มั่นใจพร้อมส่งมอบพื้นที่ให้ทีมสถาปนิกและช่างตกแต่งภายในได้ทันก่อนสิ้นกุมภานี้

       ภายในอาคารทั้งสองหลังรวมถึงบ้านดินหลังใหญ่ บ้านดินส่วนหน้าที่กำหนดให้เป็นร้านค้าชุมชนนี้ ภายหลังดำเนินการแล้ว จะรวมเรียกหมู่อาคารเหล่านี้ว่า "สุขศาลาเยียวยาโลกร้อน" เพื่อให้ผู้เข้าชมทุกรุ่นวัยได้เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และหนทางในการร่วมมือกันบรรเทาปัญหา

       มาตรการหนึ่งจากการลงพื้นที่วิจัยพบว่า ด้วยการดำรงสภาวะของการ "อยู่อย่างแกลง" ดังเช่นวิถีชีวิตเดิมที่ผ่านมา คงอาชีพเดิมที่พึ่งพาดิน น้ำ ฟ้า (ฤดูกาล) ไม่ผูกภาพความเจริญไว้กับการลงทุนใหญ่ ๆ ที่ไม่ตอบสนองพื้นที่ และส่งผลกระทบต่อสังคมในทางเสียหาย แต่นำพาการค้ารายปัจเจก คนพื้นถิ่นสามารถมีระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาตนเองได้  ไม่เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้ไปทำหน้าที่อื่นจนขาดสมดุลย์ จะช่วยค้ำจุนบ้านเมืองให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ร่มเย็นเป็นสุขได้สืบต่อไป

       นิทรรศการดังกล่าวจะแล้วเสร็จพร้อมทำพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ ๒๒ มีนาคมนี้ในช่วงเทศกาลงานวุญกลางบ้าน ปีที่ ๑๐ ก่อนที่จะเปิดให้ผู้สนใจได้เข้าศึกษาเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันต่อไป


I blog with BE Write

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ตลาดกลางแกลงพุธที่ ๒๐ นี้ เป็นนัดที่ ๑๑ ...เชิญมาสุขศาลาเยียวยาความเหงา...ข่าวว่ามีงานสานตะกร้าสานเสื่อช่างเหลือใจ และผู้แทน GIZ จากเยอรมันจะขอมา

 


       หอมเครื่องแกงมาแต่ไกลตั้งแต่ลงจากรถ ที่ไหนได้เป็นทอดมันไม้เสียบย่างเตาถ่านไฟอ่อน ๆ ของคนบ้านทะเลน้อยเจ้าเก่านี่เอง  ผิวที่สุกมากเพราะโดนไฟ กับทอดมันเนื้อในที่สุกกำลังพอดี ๆ ทำให้อยากได้ข้าวสวยควันฉุยสักจานคงจะดีไม่น้อย
       เทพีบานฉ่ำจากเวทีประกวดนางนพมาศเมืองแกลง...ป้าแจ๋ว แห่งร้านหนังสือนารีรัตน์ เดินมาในชุดงามหวามใจ พร้อมชูผลระกำร้อยสายเชือกกล้วยให้ดู ยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้เห็นแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว แต่ยังจำได้... เราก็สงสัยว่ามันแปลกตรงไหน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

       นี้ก็ไม่ได้สนใจกับรสหวานของอ้อยควั่นสักเท่าใด ได้แต่อุ้มลูกยิ้มชอบใจกับก้านไม้ไผ่เสียบเหลาปลายบางอ่อนให้โง้งงอนใช้เสียบอ้อยควั่น ให้แลดูสวยงามทั้งยังขยับไปมาได้ เขาเรียกว่ารสหวานหรือจะเปรียบปรานงานหัตถศิลป์....เน้อะ
      ยังคงชอบใจที่ได้เห็นบรรดานักเรียน เยาวชนมาช่วยแม่ขายของที่ตลาดกลางแกลงแห่งนี้เสมอ ในภาพ...เนตรนารีคนนี้ตามแม่เอ๋จากโรงไม้เอสแอลพาราวู้ดมาขายกล้วยแขก ฝ่ายยายก็อดตามมาดูหลานไม่ได้  เมื่อพบหน้าก็ยิ้มกระจายพลางบน ๆ ไป ว่าแม่เอ๋อยู่โรงไม้ยางดี ๆ ไม่ชอบ แต่ชอบพาลูกออกมาฝึก "วิชากัน" (อด) อย่างนี้ประจำ

       ข้ามไปฝั่งด้านใต้ของเมืองแกลงย่านบ้านพลง บ้านทะเลน้อยที่ดินน้ำยังอุดม และไม่ถูกเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้ประโยชน์จากที่ดินไปมากนัก กุ้งหอยปูปลายังมีชุก จนชาวบ้านเขาเอาปลากะพงมาทำปลาเค็มเพื่อถนอมไว้ให้ได้นานและมีรสชาดมากกว่าเก่า....ขณะที่คลองด้านทิศเหนือของเมืองที่แคบกว่าตื้นกว่า อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการรับน้ำเสียที่บำบัดไม่ได้ตามมาตรฐานของสถานประกอบการขนาดใหญ่อยู่หลายแห่งยามนี้ตามที่พอได้ยินอยู่เนือง ๆ ว่ากุ้งหอยปูปลาชักจะหาลำบากขึ้นทุกวัน ๆ 

       ตบท้ายกับคนกลัวป่วย...ลุงจุด ครูดนตรีไทยที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมายจากซอยอริยคุณ และมนตรี หนุ่ม(เหลือ) น้อยจากแยกภิบาลพัฒนา  ไม่เพียงขยันออกกำลังกาย แต่ยังตั้งใจมาซื้อหาผักดี ๆ ทุกนัดกลับไปรับประทานประสาคนเคมีตรงกัน...ระหว่าง "สองวัย หัวใจเดียวกัน" กับ "สองใจ ในวัยเดียวกัน" ท่านว่าอันไหนจะใกล้เคียงกว่ากับคนคู่นี้มากกว่า


I blog with BE Write

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทุกหน่วยเกี่ยวข้องในงานบุญกลางบ้าน พร้อมแล้วสำหรับการเข้าสู่การเตรียมงาน ปีที่ ๑๐




พุธที่ ๑๓ กุมภา เทศบาลฯ จัดประชุมเตรียมงานบุญกลางบ้าน โดยกำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันอาทิตย์ที่ ๑๗ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๔ มีนาคมที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๗ มีนา เวลา ๑๖.๓๐ น. เป็นต้นไป จะได้กระทำพิธีเปิดสนามกีฬาและสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พระพรรษาอย่างเป็นทางการหลังจากเข้าพัฒนามาตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๔๗  พิธีจะจีดขึ้นบริเวณลานเอนกประสงค์ศาลา ๙ เหลี่ยมกลางสระน้ำ 
ส่วนตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๑๘ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๔ มีนาคม จะจัดงานบุญกลางบ้าน ณ บริเวณท่าน้ำศาลาต้นโพธิ์ ซอยศรีประชุมชล ถนนสุนทรโวหาร เรื่อยไปจนถึงลานทุ่งเมืองแกลงเช่นทุกปี

และในโอกาสครบ ๑ ทศวรรษงานบุญกลางบ้านในปีนี้ ได้กำหนดชื่อตอนงานคือ "สุวารีลินลาศ...เลื่อมเรืองศุภมาส...แจ่มเพ็ญโพยมบน"  เพื่อได้ร่วมกันตระหนักถึงบ้านเมืองที่มีสายน้ำอันงดงามอย่างคลองประแสไหลลินลาศเลื่อนผ่านคืนวันอันรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ เปรียบได้ดังแสงจันทร์นวลในท้องนภาที่สาดแสงมาอยู่ทุกคืนวันดุจกัน

ขณะที่บริเวณหน้าหอประวัติเมืองแกลง จะเปิดพื้นที่สำหรับนักเรียน เยาวชน และผู้สนใจทั่วไปได้มาแสดงออกถึงขีดความสามารถเฉพาะตัวที่ตนถนัดตลอดค่ำคืนของการจัดงานเพื่อเฟ้นหาสุดยอด Muangklang Talent  ส่วนในหอประวัติฯ จะมีการจัดแสดงภาพถ่ายในหัวข้อ "ไป่รักใคร เท่ารักเธอ..เมืองแกลง" ทั้งระดับตากล้องมืออาชีพ และผู้รักการถ่ายภาพที่สามารถนำภาพที่ตนเองชอบมาร่วมจัดแสดง

ส่วนภาคการแสดงของชุมชนและชมรมต่าง ๆ ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดการแสดงมาเองได้เป็นอิสระโดยคงความสวยงาม อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยเพื่อเป็นที่พอใจให้ความสุขแก่ผู้ชม

ความคืบหน้าจะนำเสนอเป็นลำดับ ๆ ในโอกาสต่อไป


  


I blog with BE Write

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ของแปลก...มาแปลก.. เห็นแล้วชวนชื่นใจในตลาดกลางแกลง...(พบกันพุธที่ ๑๓ กุมภา...เป็นนัดที่ ๑๐)

  

    เริ่มจาก มะนาวยักษ์ ของเจ๊ติ๋ม ขนาดใหญ่ผิวคล้ายเท่าลูกฝรั่ง   ขืนเผลอถูกหลอกให้กินมีหวังเข็ดฟันเแรี้ยวปรี๊ดแน่นอน เห็นแล้วอยากเรียกว่า "มะนาวครก" เหลือเกิน ไม่รู้ผ่าเหล่าผ่ากอมาได้ไง.... 
    ถือยืนโชว์อย่างภาคภูมิหลังซื้อได้กับลุงยศ ไฟฟ้าฯ แกลง...กับ " ไม้กวาดตากิม" ที่เอากิ่งต้นตากิมมามัดรวมกัน เพราะพิเศษตรงที่กิ่งมันแข็งและเหนียว ใช้กวาดลานดินได้สบายมือ แต่ที่แน่ ๆ คือ ไม่แก่คราวลุงจริง จะไม่รู้จักซื้อไม้กวาดตากิมนะเนี่ย....

    ปลากะพงหลงเบ็ดตัวนี้หนักเกินขนาดจานเปลไปหลายเท่า เพราะหนักถึง ๘ กิโลยกมือเดียวแทบไม่ขึ้น จับจากสระริมน้ำคลองประแสย่านทุ่งพลงฯ ด้วยการตกเบ็ด เพราะเขาไม่ได้ขุนด้วยอาหารเม็ด ปล่อยมันโตธรรมชาติ ให้ปลาข้างเหลทองบ้างเป็นครั้งคราว...สนนราคาแบบไม่ต้องต่อราคาที่หนึ่งพันบาทแบบเต็มใจทั้งสองฝ่าย
    มะลิริมทางข้างตลาดกำลังแตกดอก นักเรียนเก็บไปไหว้พระแล้วยังเหลืออยู่มาก มันสมบูรณ์ด้วยปุ๋ยหมักนี่แหละ ท่านใดสนใจแวะเก็บกลับไปถวายพระเชิญได้ ๆ 

    เด็ก ๆ ตัวน้อย ๆ จำนวนไม่น้อยทั้งตามพ่อแม่มาตลาด ทั้งนักเรียนที่นี่ ต่างรอวันกลางสัปดาห์เพื่อมานั่งระบายสีอยู่ใกล้ ๆ จากการผสมกันไปมาระหว่างตลาด โรงเรียน สนามกีฬา สวนสาธารณะ จนรู้สึกประหนึ่งว่ามันเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ชีวิตของชาวเมืองแกลงที่ได้เห็นกันล่ะ
    ตบท้ายกับหัวหมู่ทะลวงปลูก จากฟากข้างโรงเรียน...ชำนาญสามัคคีวิทยา สามแยกประแส ชูธงนำหน้าพาพืชผักจากแปลงปลูกในโรงเรียนมาวางขาย มันช่างเท่ห์สุด ๆ เพราะพ่อค้าแม่ขายยังแต่งชุดนักเรียนอยู่เลยนี่แหละ...
    
    เรียนทั้งวิชาการ และวิชากัน (อด) พร้อมกันไป คือความยิ่งใหญ่ของการจัดการเรียนการสอนเพื่อการมีภูมิชีวิตในอนาคตข้างหน้าครับ....(โรงเรียนใดประสงค์พื้นที่ฝึกค้าขายแก่นักเรียนติดต่อได้ครับ)
    


I blog with BE Write

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

๓ เรื่องราว กับ ๒ ความรู้สึกตรงกันข้ามในรอยทาง... "เมืองดำเนิน"

  

       อดใจไม่ไหวที่จะเล่าถึงอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๗ ทางเกวียน นามไพฑูรย์ บุญส่ง ผู้มีบ้านเรือนตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำคลองประแส..ความที่แกดำรงดำเนินชีวิตแอบอิงอยู่กับผลผลิตพืชผักที่หล่อรวมกันมาจากดิน น้ำ และปุ๋ยที่หมักขึ้นมาเองจนก่อเกิดเป็นรายได้ ขณะที่มีต้นทุนรายจ่ายที่ต่ำ...ล่าสุด มารับลูกหมูสี่ตัวจากเทศบาลฯ ตั้งใจไปเลี้ยงในบ่อตะพาบเดิมหมายให้มันผลิตปุ๋ยคอกไว้บำรุงพืชผักสารพัด นอกจากปุ๋ยน้ำอีเอ็ม และน้ำส้มควันไม้ที่ทำขึ้นเองแล้ว เพื่อให้เพื่อนบ้านนำเอาของดี ๆ ผักงาม ๆ มาขายที่ตลาดสีเขียวกลางแกลง

อีกฟากหนึ่ง คุณสมเกียรติ อดีตคนกิจกรรมของมช. เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางที่เจ้าตัวบอก "ก็งั้น ๆ เอง" พาความตั้งใจพร้อมสมุดภาพเล่านิทานที่เคยทำและเคยส่งไปตามโรงเรียนต่าง ๆ ในแกลง วังจันทร์ เขาชะเมา ขึ้นมาที่เทศบาลฯ ประกาศตามหาสุดยอดฝีมือการวาดภาพแนว drawing ให้มาช่วยกันวาดนิทานกันเพิ่มอีก ด้วยคิดว่าการเล่านิทานผ่านแผ่นซีดี มันสื่อกันได้ไม่ดีเท่าการเล่าแบบจากมนุษย์สู่มนุษย์ ...นี่เป็นอีกรายที่ยังคงเติมฝันที่ตัวเองยังใฝ่และมั่นใจว่าที่ทำนั้นนำความสุขมาให้ตลอดเวลา

ขณะที่อีกด้านหนึ่งของเหรียญในสังคม ที่ทำให้เกิดความไม่ไว้ใจและไม่สบายใจ คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการลงทุนขนาดใหญ่ เมื่อที่ดินถูกเปลี่ยนสภาพการใช้งานจากพื้นที่เกษตรหรือพื้นที่รกร้างไปเป็นอื่น  กระบวนการที่ขนคนมารับใช้ทุนคราวละมาก ๆ แต่ขาดการจัดการที่ดี ย่อหย่อนต่อสำนึกรับผิดชอบ และสุกเอาเผากิน ย่อมเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบต่อสังคม ทั้งความสะอาด มลภาวะเรื่องฝุ่น  ความปลอดภัยด้านการจราจร การจัดการน้ำเสียจากที่อยู่อาศัยพักพิงแบบชั่วคราว (ตามภาพ) หรือแม้แต่การสุขาภิบาล โรคภัยไข้เจ็บของผู้เคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานเอง...แม้เทศบาลฯ ยังคงเฝ้าจับตาผลกระทบที่จะเกิดอย่างต่อเนื่อง

แต่มันช่างเป็นคนละความรู้สึกกับเหรียญอีกด้านข้างต้นของคนพื้นถิ่นเดิมที่เขาอยู่กันอย่างเหลือเกิน...

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมืองแกลงเตรียมแปลงโฉมพื้นที่ส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะ เป็น "สวนอาหาร" เพื่อความคุ้มค่าของค่าน้ำค่าไฟที่ต้องใช้ไปกับการดูแล...หวังกระตุ้นทุกบ้านช่วยกันขยับเรื่องนี้ต่อไป

   

    

         การดูแลสวนสาธารณะมาหลายปี กอปรกับความเป็นห่วงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ความมั่นคงทางอาหารของเมืองแกลง รวมถึงความพยายามให้มีการปลูกพืชอาหารเพิ่มขึ้นในพื้นที่ เพื่อความสด สะอาด ปลอดภัยอย่างแท้จริง ล่าสุด เทศบาลฯ ร่วมกันทบทวนภารกิจและเริ่มแปลงพื้นที่สวนสาธารณะ ในระยะเริ่มต้นนี้ ไม่น้อยกว่าครึ่งไร่ สู่ "สวนอาหาร" แบบบ้าน ๆ แล้ว

        ทั้งนี้ มีการขบคิดถึงค่าน้ำค่าไฟที่ต้องใช้ในกระบวนการดูแลต้นไม้ ที่สุดจึงมีข้อสรุปที่ความคุ้มค่าสูงสุด จึงแบ่งพืชออกเป็น ไม้ยืนต้นให้ร่มเงาและเพื่อใช้เนื้อไม้ในระยะยาว เช่นยางนา โดยจะปลูกเพิ่มเติมจากของเดิม ไม้ยืนต้นกินได้ เช่น หมาก สะเดา ขี้เหล็ก แคนา ฯ ไม้ล้มลุกแต่ให้ร่มเงาให้ผลเร็ว เช่น มะละกอ กล้วย ฯ และที่พื้นดินจะเป็นพืชสวนครัว ผัก และเครื่องเทศ เพื่อให้น้ำทุกหยดที่สูบด้วยกระแสไฟฟ้าไม่สูญเปล่าเกินความจำเป็น

       ขณะนี้ มีการเดินหน้าไปแล้วโดยการออกแบบพื้นที่และลงพืชไปแล้วหลายชนิด และมีการแบ่งพื้นที่สำหรับการเดินเพริศทัศนาแก่ผู้ไปเดินออกกำลังกาย ส่วนในอนาคตอันใกล้ จะเปลี่ยนแหล่งพลังงานไฟฟ้ามาเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่านแผงโซล่าร์เซลที่เทศบาลฯ มีการใช้งานจริงมาแล้วระยะหนึ่งที่ศูนย์การเรียนรู้ หลังอาคารดับเพลิง ถนนสุนทรภู่

      เทศบาลฯ วางเป้าหมาย หวังให้ชาวเมืองแกลงและผู้สนใจได้เห็นแปลงสาธิตที่ทำขึ้นจริงในชีวิตประจำวันเช่น " สวนอาหาร" นี้ ไปกระตุ้นให้ช่วยกันสร้างความอุดมสมบูรณ์ ความมั่นคงมั่งคั่งของข้าวปลาอาหารที่ยั่งยืนในบ้านเมืองของเราต่อไป

       ทั้งหลายทั้งปวง ขอยกความระลึกถึงไปยังปู่ย่าตายายที่ทำให้ลูกหลานมีโอกาสได้เห็นและสัมผัสได้ถึงสวนหลังบ้านอย่างไม่รู้ลืมมาจนทุกวันนี้

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พบคนแกลงออกอาการยิ้มสู้...ชูสองนิ้ว...กำลังระบาด..ดีกว่า..หน้านิ่ว..ขนคิ้วขมวด..ที่ตลาดกลางแกลง...

      

         ผ่านนัดเขียวมาแล้ว ๘ นัด มีพ่อค้าแม่ขายกว่า ๗๐ รายในตลาดกลางแกลงนี้ ขณะนี้การจัดระเบียบ การรักษาความสะอาดยังดำเนินต่อไป ควบคู่กับการขยายพื้นทางเดินไปทางด้านหน้าบ้านดินหลังใหญ่ เพื่อความสะดวกสำหรับการทักทาย และซื้อ ๆ ขาย ๆ

         ขณะเดียวกัน จากการสำรวจประเมินเบื้องต้น พบปัญหาพืชผักเริ่มออกอาการจะลดจำนวนลง แม้มีการปลูกหนุนเนื่องกันเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะโตไม่ทันรอบ แต่คาดว่าปัญหานี้จะคลี่คลายเมื่อเข้าสู่ภาวะสมดุลย์ระหว่างความต้องการและการผลิตในอนาคตอันใกล้นี้  ส่วนอาหารปรุงทั้งหลายยังไปได้ดี

         ทั้งนี้ แม้ผ่านมานัดที่ ๘ แล้ว แต่ที่ยังเปื้อนและฟูฟุ้งไปทั่วอยู่คือรอยยิ้มของความเป็นมิตรไมตรี แต่ที่กำลังเป็นปัญหาแก้ยากเหมือนไฟลามทุ่งคือ กิริยาของการชูสองนิ้วสู้กล้อง ที่แว่วว่ามาจากแม่ค้าชื่อจริยาเขานำมาเผยแพร่ไว้นี่แหละ เหมือนจะติดต่อกันแบบชักจะมากขึ้นทุกวัน ๆ ....น่ารักกันเกิ๊น

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมืองแกลง ขยับเดินหน้างานประจำปี "บุญกลางบ้าน" ริมน้ำคลองประแส บ้านตลาดสามย่านแล้ว



       ปลายเดือนมกราที่ผ่านมา งานโยธา กองช่าง เทศบาลฯ เริ่มเข้าพื้นที่บริเวณงาน ณ ซอยศรีประชุมชล (ถนนสุนทรโวหาร ซอย ๕) เพื่อลงมือก่อสร้างเริ่มจากอัฒจันทร์คนดู สะพานทางเดิน เวทีใหญ่ และเวทีย่อยริมน้ำคลองประแสตามลำดับ โดยจะทยอยดำเนินการเมื่อว่างเว้นจากงานประจำ กระทั่งเข้าสู่งานบุญกลางบ้าน ในราวกลางเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

       นับเป็นการจัดงานหนที่ ๑๐ ในปีที่ ๑๐ นับแต่เทศบาลฯทพร้อมด้วยชาวเมืองแกลงได้พร้อมใจกันก่อสร้างศาลาต้นโพธิ์หลังใหม่ ขึ้นแทนที่ศาลาไม้หลังเดิมที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา กอปรกับได้อัญเชิญพระพุทธรูป "หลวงพ่อประกายแสงทิพย์" จากใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ขึ้นประดิษฐานอยู่ในศาลาในคราวเดียวกัน

       นับแต่นั้นมา จึงได้เร่งฟื้นฟูบูรณะคลองให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น กระทั่งสามารถจัดงานประจำปีริมน้ำได้มาแต่ปีพ.ศ. ๒๕๔๖ ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวเรื่อยไปจนถึงสะพานร้อยปีบ้านตลาดสามย่าน ( สะพานฝั่งธน) ถือเป็นชุมชนแรกของบ้านตลาดสามย่าน หลังจากที่ได้มีการย้ายเมืองแกลงเดิม จากบริเวณบ้านดอนเค็ด วัดโพธิ์ทองพุทธาราม มาอยู่ที่นี่ เมื่อปีพ.ศ.๒๔๕๑ ในสมัยพระกำแหงพลล้าน (ชื้น คชภูมิ) ผู้เป็นนายอำเภอแกลงต่อจากหลวงแกลงแกล้วกล้า (ศรี บุญศิริ) ในยุคนั้น


วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

ตลาดกลางแกลง (นัดที่ ๘)...แอบหวัง...หลังฝนตก...ท้องฟ้าแจ่มใส

         

        วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ มกราคมนี้ เทศบาลฯ เชิญชวนบรรดาพ่อค้าแม่ขายไปร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นแบบแลกเปลี่ยนกัน เพื่อเป้าหมายของการพัฒนาตลาดให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง โดยเทศบาลฯ เน้นย้ำเรื่องความเป็น ตลาดยิ้ม เรื่องของปลูก ของปรุง เรื่องความรับผิดชอบร่วมกัน ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากได้พรรณาสิ่งที่อยากเห็นในตลาดกลางแกลงนี้ โดยมีการส่งถ่ายกำลังใจแก่กันและกันในท้ายที่สุด

         และวันพุธที่ ๓๐ มกรานัดที่ ๘ นี้ จะเพิ่มจำนวนแคร่ให้เพียงพอ และวางแผนขยายพื้นที่ขายไปทางหน้าบ้านดินหลังใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้เดินไปมาได้สะดวกและไม่แออัด โดยเทศบาลฯ ได้จัดทำทางเดินด้วยบล็อกปูหญ้ารอบชานบ้านให้เดินได้รอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว

         มาลองดูจะรอดไม่รอด แม้ฝนจะตกขู่...จะถอนตะใคร้ริมทางเดินมาปักดูว่าจะเอาฝนอยู่ไหม.......น้อ....

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

เมืองแกลงเตรียมปรับโฉมเส้นทางด้านทิศเหนือสนามกีฬาฯ เพื่อความสะดวก ปลอดภัยสำหรับผู้เดินวิ่งออกกำลังกายทุกท่าน

     

         เทศบาลฯ เตรียมจะเข้าปรับปรุงเปลี่ยนแปลงผิวทางชนิดแอสฟัลท์ติค เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณถนนด้านทิศตะวันตก ทิศเหนือของสระน้ำศาลาเก้าเหลี่ยม และหลังอนุสาวรีย์สุนทรภู่ทันทีเมื่อฝนแล้ง

         ทั้งนี้ ผิวทางบริเวณดังกล่าว สร้างขึ้นเป็นสายแรก ๆ นับแต่มีการสร้างสนามกีฬามาแต่หลังปี พ.ศ. ๒๕๔๗ เรื่อยมา ผ่านการใช้งานมานาน โดยเฉพาะการรับรถบรรทุกหนักวัสดุต่าง ๆ เข้าพื้นที่ เมื่อมีการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ในบริเวณนั้น ผิวทางจึงมีสภาพชำรุด บางแห่งน้ำขังเมื่อเกิดฝนตก ไม่เรียบ และไม่สะดวกในการใช้เดินหรือวิ่งออกกำลังกาย

         งานปรับปรุงนี้ จึงจะทำการยกระดับบริเวณดังกล่าวให้สูงขึ้น และเปลี่ยนวัสดุก่อสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก หนา ๑๕ เซ็นติเมตร เพื่อความแข็งแรงทนทาน ซึ่งอาจจำเป็นต้องให้รถบรรทุกวัสดุต่าง ๆ เข้าใช้บ้างตามความจำเป็นในโอกาสต่อไป และเป็นโอกาสที่จะได้ปรับปรุงเพื่อความพร้อมในพิธีเปิดศาลา ๙ เหลี่ยมในเทศกาลงานบุญกลางบ้าน เดือนมีนาคม ศกนี้อีกด้วย

       จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ และจะรีบคืนพื้นที่เพื่อการเดินวิ่งออกกำลังกายต่อไป ทันทีที่งานแล้วเสร็จ

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

งานตอกเข็มสะพาน ๒ แหลม เข้าใกล้ครึ่งทางครึ่งคลอง...หากฝนหนาเม็ด ระดับน้ำคลองสูงขึ้น...อาจต้องลุ้น

       


          ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมมานี้ งานก่อสร้างถนนและสะพานสองแหลม ( แหลมท่าตะเคียน - แหลมยาง) ในส่วนของถนนสามารถกำหนดเส้นทาง วางระยะ หาระดับและปรับเกลี่ยได้อย่างราบรื่น แม้อาจมีอุปสรรคบางบริเวณที่ต้องรอการจับกุ้งที่เลี้ยงในบ่อขึ้นในราวเดือนกุมภาพันธ์เพื่อนำบางส่วนมาใบ้เป็นเส้นทางก็ตาม  แต่ก็ยังสามารถทยอยทำงานในส่วนอื่น ๆ ไปได้

         หากแต่ในส่วนงานตอกเข็มสะพานสองแหลมนี้ ที่ได้วางโครงสร้างสะพานความยาวที่ ๕๔ เมตร และกำหนดแผงเสาเข็มรับน้ำหนักโครงสร้างสะพานออกเป็น ๘ ตับ  ตับหนึ่ง ๆ ใช้เสาเข็มรวม ๕ ต้น เป็นงานที่ต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบ ตั้งแต่การกำหนดตำแหน่งเข็มแต่ละต้น  การทำพื้นโครงสร้างสำหรับรับน้ำหนักปั้นจั่นจากไม้สนชั่วคราวเพื่อตอกเสาเข็ม และการชักลากเคลื่อนย้าย ฯ 

        ....ล่าสุดสามารถตอกเข็มได้แล้วรวมไม่น้อยกว่า ๓ ตับ ๑๕ ต้น และคาดว่าหากไม่มีปัญหาอุปสรรคจากฟ้าฝน และปริมาณน้ำในคลองประแส งานตอกเสาเข็มสะพานทั้ง ๔๐ ต้น จะแล้วเสร็จได้ในไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นอย่างช้า ก่อนที่จะขึ้นโครงสร้างพื้นสะพานในลำดับถัดไป โดยทั้งสะพานและถนนสองแหลมนี้ จะแล้วเสร็จราวกลางปี ๒๕๕๖ นี้ เพื่อความสะดวกในการไปมาหาสู่กันของชาวเมืองแกลงทั้งสองฟากฝั่งคลอง

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

เตรียมรื้อถอนสายเคเบิลระเกะระกะพาดสะพาน ๑๐๐ ปี บ้านตลาดสามย่าน..เมืองแกลงจัดระเบียบจัดพื้นที่ติดป้ายโฆษณาตามย่านสำคัญ ๆ กันใหม่เร็ว ๆ นี้

        

 กลางสัปดาห์นี้ งานเทศกิจ สำนักปลัดเทศบาล ออกติดป้ายประกาศแจ้งหาเจ้าของสายเคเบิลที่โยงสายพาดผ่านสะพาน ๑๐๐ ปีบ้านตลาดสามย่าน (สะพานฝั่งธน) ถนนโพธิ์ทอง เพื่อให้รื้อถอนสายดังกล่าวจำนวน ๒ เส้นที่เหลือออกภายใน ๗ วัน หลังจากได้แจ้งบริษัท หน่วยงานต่าง ๆ ให้รื้อถอนออก และให้ไปเดินสายลอดใต้สะพานแทนไปแล้วจำนวนมากก่อนหน้านี้  เพื่อรักษาภูมิทัศน์บริเวณสำคัญนี้ของเมืองไว้

         นอกจากนี้ ยังมอบงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ออกตรวจสอบรื้อถอนป้ายโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุญาต และติดในบริเวณห้ามติดตั้งออกอยู่สม่ำเสมอ ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน  ทั้งนี้ เทศบาลเตรียมที่จะจัดพื้นที่นำร่องเพื่อทำโครงป้ายโฆษณาแก่ผู้สนใจได้มายื่นเรื่องขออนุญาต เสียค่าธรรมเนียมภาษีป้ายให้ถูกต้องเรียบร้อย มีระยะเวลาการติดตั้งที่แน่นอน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการโฆษณาธุรกิจ และการรักษาภูมิทัศน์ ตลอดจนความปลอดภัยด้านการจราจรในระบบเมืองต่อไป 

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

ทึ่ง...ฝีมือสานตะกร้ามือสอดขยุกขยิกของป้าดำจนล้นใจ.. พบตัวจริงเสียงจริงได้วันนี้ที่ตลาดกลางแกลงกันครับ



ประสาคนไม่สันทัดถนัดงานหัตถศิลป์ งานฝีมือประดิษฐ์  แต่เมื่อได้เดินทางไปบ้านวัดบุนนาคพบป้าดำ เจ้าของชิ้นงานสานตะกร้าจากก้านใบมะพร้าวจากในสวนหลังบ้านแล้ว ก็อดตื่นเต้นระคนเกิดความยินดีด้วยไม่ได้  

ตะกร้าใบใหญ่น้อยหลายขนาดอันเกิดจากน้ำมือทำของป้าดำนี้ เมื่อได้ยิ่งเห็นต้นทางของวัตถุดิบว่าคือก้านใบมะพร้าวที่แกปลูกอยู่สวนสารพัดหลังบ้านแล้ว ยังต้องเอามาเหลาแล้วตากแดด ก่อนจะค่อย ๆ บรรจงสานขึ้นรูป แล้วลงชแล็คในขั้นตอนสุดท้าย ใบ ๆ หนึ่งใช้เวลาทำเฉลี่ยเกือบวัน

กล้วก็พลันนึกถึงวันเมื่อราว ๒๐๖ ปีล่วงมา  ที่สุนทรภู่ท่านพรรณนางานจักสานบ้านเราไว้ดังนี้

....ถึงบ้านแกลงลัดย่านไปบ้านกลาง  เห็นฝูงนางสานเสื่อนั้นเหลือใจ
แค่ปากพลอดสองมือสอดขยุกขยิก  จนมือหงิกงอแงไม่แบได้ ....(นิราศเมืองแกลง พ.ศ.๒๓๔๙)

เชื่อเหลือเกินว่า แม้นใครได้เห็นถึงคุณค่าตะกร้าสานนี้ ก็คงจะรู้สึกได้ไม่ต่างกัน
และวันพุธที่ ๒๓ มกรานี้ เทศบาลฯ เชิญป้าดำมาสานตะกร้าให้ชาวเราได้เห็นที่ตลาดกลางแกลงกันครับ

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

22-1-2013 คณะทำงานด้านเยาวชน เห็นพ้องต้องกัน..ดันพื้นที่หอประวัติเมืองแกลง จัดแสดงภาพถ่ายและประกวดการแสดงของเยาวชนในช่วงงานบุญกลางบ้าน เดือนมีนาคมนี้

        


       ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เทศบาลฯ ได้ประสานงานเรียนเชิญคุณครูผู้เชี่ยวชาญด้านการดนตรี ศิลปะการแสดง ร่วมกันหารือการจัดงานเปิดพื้นที่แก่เยาวชนได้แสดงขีดความสามารถของตนในเทศกาลงานบุญกลางบ้าน เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ โดยจะใช้พื้นที่ภายในเรือนหอประวัติเมืองแกลง เพื่อการจัดแสดงภาพถ่ายต่าง ๆ ของประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมการแสดงภาพ  ส่วนบริเวณพื้นที่โล่งด้านหน้า จะใช้เพื่อการแสดงของเยาวชนและประชาชนทั่วไป
        
        ในการนี้ ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นของการจัดงาน ที่มีวัตถุประสงค์ที่จะเปิดพื้นที่เพิ่มสำหรับเยาวชนได้มีส่วนสำคัญยิ่งขึ้นในงานบุญกลางบ้าน  ซึ่งผลการหารือในรอบการระดมความคิดรอบแรกนี้ ได้รับความสนใจและการสนับสนุนจากครูผู้แทนจากโรงเรียนต่าง ๆ และความร่วมมือจากคุณสมเกียรติ อภิญญาชน จากเอพีน่า พร้อมส.ท.สุรศักดิ์ (เล็ก)  ประไพสนธิพงศ์ จะได้เข้ามาร่วมกันอำนวยการประสานงานให้กิจกรรมดังกล่าวสำเร็จตามวัตถุประสงค์ต่อไป

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

21-1-2013 ยังไง...? ทำไม....? ถึงต้องตลาดกลางแกลง

 


 วันศุกร์ที่ ๑๗ นัดหารือทั้งเช้าบ่าย ทั้งฟากคนมาขาย และฝ่ายคนจัดตลาด หวังช่วยกันคงรักษาบรรยากาศไว้ดังนี้

ภาพที่ ๑ เป็นที่นัดพบฉันคนบ้านเดียวกัน ส่งยิ้มรับยิ้มผูกมิตรไมตรีแก่กัน  
ของปลูก (พืชผักผลไม้) ที่วางขาย... ขอให้ปลูกกันในพื้นที่ อย่าปลูกแบบเน้นปริมาณ...ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ใส่ความรักแก่คนซื้อไปรับประทานโดยทำให้ของนั้น สด สะอาด ปลอดภัย
ของปรุง...ให้เป็น เสน่ห์ปลายจวัก หรือ เอมอิ่มรสมือนาง หรือ มีเรื่องราวความเป็นมาแต่เก่าก่อน

ภาพที่ ๒ ที่ต้องมีตลาดนัดสีเขียวเพราะ...
เราปลูกพืชพลังงานอย่างยางพารากันมาก (70%ของพื้นที่เพาะปลูก) อีกทั้งปาล์มน้ำมันก็กำลังเริ่มบูม
เราปลูกผลไม้ถึง 29% ของพื้นที่เพาะปลูก
เราปลูกข้าวที่ต้องกินทุกวันเพียง 1% ของพื้นที่เพาะปลูก มิพักต้องพูดถึงผักที่หาพื้นที่ปลูกแทบไม่เจอ
สรุปรวมความ คือ เราต้องพึ่งพาข้าวปลาอาหารจากพื้นที่อื่นแทบทั้งสิ้น ตลาดนัดสีเขียวน่าจะกระตุ้นสัดส่วนการปลูกพืชผักตรงนี้ให้เพิ่มขึ้นได้

ภาพที่ ๓ เงินทองจากการซื้อขาย สำคัญรองลงมาจากไมตรีที่มีต่อกัน
เทศบาลฯ ไม่มีความประสงค์ทำตลาดนัดนี้เป็นธุรกิจ
แต่ปรารถนาให้ตลาดเป็นหน่วยสำคัญช่วยกระตุ้นให้ชาวเราปลูกข้าว พืช ผัก ผลไม้ในพื้นถิ่นกันเพิ่มขึ้น ให้แกลงมีความมั่นคงด้านข้าวปลาอาหารเพิ่มขึ้น
ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาไม่เก็บค่าตลาดค่าวางขาย เพราะตั้งใจเชิญชวนให้มาร่วมกันเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ 

ภาพที่ ๔ ตลาดนัดสีเขียวนี้ นับเป็นหน่วยเล็กที่สุดที่อยู่ในพื้นที่ตั้งของโรงเรียนอยู่เมืองแกลงวิทยา ที่สนามกีฬาฯ ของเทศบาลฯ ....
การยกตลาดมาไว้ในโรงเรียน ไม่ใช่เรื่องแปลกพิกล ก็เหมือนมีร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันนั่นเอง... แต่นักเรียนจะได้เห็นได้ชิดใกล้ตลาดชีวิตจริงของสังคม เห็นการทำมาค้าขาย เห็นและรู้จักวัตถุดิบต่าง ๆ ที่วางขาย...
ขอเป็นโรงเรียนที่พี่ป้าน้าอาสามารถเข้าไปใข้ประโยชน์ในสถานที่มากกว่าใช้จัดการเรียนการสอนด้วยเถิด....
และขอเราไปพบกันที่ตลาดด้วยความเกรงใจให้เกียรติแก่สถานที่ ด้วยเพราะมีเราทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของ....

21-1-2013 ยังไง...? ทำไม....? ถึงต้องตลาดกลางแกลง

 


 วันศุกร์ที่ ๑๗ นัดหารือทั้งเช้าบ่าย ทั้งฟากคนมาขาย และฝ่ายคนจัดตลาด หวังช่วยกันคงรักษาบรรยากาศไว้ดังนี้

ภาพที่ ๑ เป็นที่นัดพบฉันคนบ้านเดียวกัน ส่งยิ้มรับยิ้มผูกมิตรไมตรีแก่กัน  
ของปลูก (พืชผักผลไม้) ที่วางขาย... ขอให้ปลูกกันในพื้นที่ อย่าปลูกแบบเน้นปริมาณ...ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ใส่ความรักแก่คนซื้อไปรับประทานโดยทำให้ของนั้น สด สะอาด ปลอดภัย
ของปรุง...ให้เป็น เสน่ห์ปลายจวัก หรือ เอมอิ่มรสมือนาง หรือ มีเรื่องราวความเป็นมาแต่เก่าก่อน

ภาพที่ ๒ ที่ต้องมีตลาดนัดสีเขียวเพราะ...
เราปลูกพืชพลังงานอย่างยางพารากันมาก (70%ของพื้นที่เพาะปลูก) อีกทั้งปาล์มน้ำมันก็กำลังเริ่มบูม
เราปลูกผลไม้ถึง 29% ของพื้นที่เพาะปลูก
เราปลูกข้าวที่ต้องกินทุกวันเพียง 1% ของพื้นที่เพาะปลูก มิพักต้องพูดถึงผักที่หาพื้นที่ปลูกแทบไม่เจอ
สรุปรวมความ คือ เราต้องพึ่งพาข้าวปลาอาหารจากพื้นที่อื่นแทบทั้งสิ้น ตลาดนัดสีเขียวน่าจะกระตุ้นสัดส่วนการปลูกพืชผักตรงนี้ให้เพิ่มขึ้นได้

ภาพที่ ๓ เงินทองจากการซื้อขาย สำคัญรองลงมาจากไมตรีที่มีต่อกัน
เทศบาลฯ ไม่มีความประสงค์ทำตลาดนัดนี้เป็นธุรกิจ
แต่ปรารถนาให้ตลาดเป็นหน่วยสำคัญช่วยกระตุ้นให้ชาวเราปลูกข้าว พืช ผัก ผลไม้ในพื้นถิ่นกันเพิ่มขึ้น ให้แกลงมีความมั่นคงด้านข้าวปลาอาหารเพิ่มขึ้น
ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาไม่เก็บค่าตลาดค่าวางขาย เพราะตั้งใจเชิญชวนให้มาร่วมกันเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ 

ภาพที่ ๔ ตลาดนัดสีเขียวนี้ นับเป็นหน่วยเล็กที่สุดที่อยู่ในพื้นที่ตั้งของโรงเรียนอยู่เมืองแกลงวิทยา ที่สนามกีฬาฯ ของเทศบาลฯ ....
การยกตลาดมาไว้ในโรงเรียน ไม่ใช่เรื่องแปลกพิกล ก็เหมือนมีร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันนั่นเอง... แต่นักเรียนจะได้เห็นได้ชิดใกล้ตลาดชีวิตจริงของสังคม เห็นการทำมาค้าขาย เห็นและรู้จักวัตถุดิบต่าง ๆ ที่วางขาย...
ขอเป็นโรงเรียนที่พี่ป้าน้าอาสามารถเข้าไปใข้ประโยชน์ในสถานที่มากกว่าใช้จัดการเรียนการสอนด้วยเถิด....
และขอเราไปพบกันที่ตลาดด้วยความเกรงใจให้เกียรติแก่สถานที่ ด้วยเพราะมีเราทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของ....