โปรดทราบ

ร่วมแจ้งข่าวสารต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน "เมืองแกลงนิวส์" ได้ที่ muangklangnews@gmail.com เพื่อที่กองบรรณาธิการข่าวจะได้พิจารณานำเผยแพร่ต่อไป

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

เยี่ยมเรือนเยือนถิ่นเมืองแกลง ตอนที่ ๓...เรือนนอนนางฟ้า..อร้าอร่ามในเขตคามชุมชนบ้านหนองแหวน

สองหัวเห็ดเด็ดสะระตี่...คุณรชต รัตนะ และคุณสายัณห์ ชูผกา 
       เมื่อประมาณกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมืองแกลงนิวส์ได้มีโอกาสแวะไปเยี่ยมเยียนคณะกรรมการชุมชนหนองแหวน เพื่อเข้าชมโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า ณ บริเวณข้างที่ทำการชุมชนบ้านหนองแหวน ถนนศาลาตาผ่อง ทางเข้าโรงเรียนมกุำเมืองราชวิทยาลัย ซึ่งชุมชนบ้านหนองแหวนได้รับการสนับสนุนงานนี้จากการทำโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงไปยังรัฐบาล ในการนี้ คุณรชต รัตนะ หรือคุณดุลย์ ประธานชุมชนบ้านหนองแหวน และคุณสายัณห์ ชูผกาคณะกรรมการให้เกียรตินำชม

       ภายในโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้าดังกล่าว มุงและกรุผนังด้วยตับฟางข้าว บางส่วนพันด้วยมุ้งพลาสติคสีเขียว เพื่อให้อากาศถ่ายเทและไม่ร้อน มีช่องระบายลมโดยรอบ ภายในมีก้อนเห็ดวางเรียงรายเพื่อรอผลผลิตอยู่นับพันก้อน ซึ่งเกิดจากการนำเอาขี้เลื่อยไม้ยางพาราจากโรงงานในพื้นที่อำเภอแกลง ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก มานึ่งฆ่าเชื้อ จากนั้นหยอดเชื้อเห็ดนางฟ้า รอการเติบโตในก้อนขี้เลื่อยที่ใช้เป็นอาหาร ประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่จะเปิดก้อนเพื่อให้เห็ดออกดอก   

       นอกจากนี้แล้ว ชุมชนหนองแหวนยังมีการสร้างโรงเรือนอีกแห่งหนึ่งที่ปากซอยแยกหมอเปลี่ยน ซึ่งใกล้จะให้ผลผลิตได้ในเร็ววันนี้ต่อไป

       การออกแบบชุมชนหรือบ้านเรือนในเขตเทศบาลฯ เพื่อให้พื้นที่บางส่วนสามารถใช้เพาะปลูกพืิชอาหารจำพวกผักสด หรือเครื่องเทศสมุนไพรได้นั้น ท่านสามารถใช้พื้นที่บริเวณต่าง ๆ ภายในบ้านไว้เพาะปลูกได้เช่นกัน อาทิ ดาดฟ้า ระเบียง พื้นที่หลังบ้าน เป็นต้น  ทั้งนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย สร้างภูมิคุ้มกันให้กับภาวะราคาอาหารที่แพงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการพึ่งพาตนเอง และซื้อเท่าที่จำเป็น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถมีพืชผักที่สด สะอาดถูกหลักอนามัยไว้รับประทาน และเพื่อเป็นงานอดิเรกยามว่าง ที่สามารถจะช่วยกันทำหลังเลิกงานหรือเวลาตอนค่ำได้ โดยหากมีเหลือจากการบริโภคภายในครอบครัว ก็สามารถเจือจานหรือแบ่งจำหน่ายแก่ผู้อื่นได้อีกทางหนึ่ง 

โรงเพาะเห็ดข้างที่ทำการชุมชนหนองแหวน
       ในส่วนของชุมชนหนองกระโดง ชุมชนหนองแหวน รวมถึงชุมชนดอนมะกอก กำลังเตรียมที่จะทำนาปลูกข้าวเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนนี้ รวมถึงชุมชนมาบใหญ่ที่มีโครงการปลูกผักสวนครัวด้วยเช่นกัน ซึ่งท่านสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการนี้ได้ที่คณะกรรมการชุมชนต่าง ๆ ข้างต้นต่อไป

    

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

จัดจราจรถนนเทศบาล ๒ เน้นจอดชิดขอบทาง จอดให้ตรงวันคู่วันคี่ เจ้าของบ้านและคนเดินทางพึงพอใจ

ถนนเทศบาล ๒ จอดให้ชิดขอบทางและตรงวันคู่วันคี่
คล่องตัวขึ้นมาก
       เมื่อวันพุธที่ ๒๗ เมษายนนี้ เทศบาลตำบลเมืองแกลง ได้จัดประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษานายกเทศมนตรี ด้านการเดินทางในเขตเืมือง และการจัดจราจร อันประกอบไปด้วย ส.ท.อชิระ ธารามาศ เป็นประธานกรรมการ ส.ท.ชาติชาย เพชรพาณิชย์ ส.ท.สุรศักดิ์ ประไพสนธิพงศ์ ส.ท.จาตุรงค์ วงศ์โภคิน เป็นกรรมการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองฝ่ายที่เกี่ยวข้องขึ้นเป็นครั้งที่ ๓  ซึ่งมีประเด็นสำคัญของการประชุม ดังนี้

       ๑. สถานการณ์การจัดระเบียบการจราจร บนถนนเทศบาล ๒ ตลอดสาย ซึ่งมุ่งเน้นให้เจ้าของยานยนต์ทุกชนิด ปฏิบัติตามกฎจราจร เรื่องการจอดวันคู่ วันคี่ ให้ตรงวัน หลังจากที่ได้ขอความร่วมมือมานานกว่า ๘ เดือนแล้ว ขณะนี้ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทำให้การเดินทางของยวดยานคล่องตัว ร้านค้าตลอดสายให้ความร่วมมือและให้คำแนะนำแก่เจ้าของยวดยานที่มาจอดเป็นอย่างดี

       ๒. เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เทศบาลฯ ได้จัดให้มีการแต่งกายเครื่องแบบเทศกิจที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ในการออกปฏิบัติหน้าที่อำนวยการด้านการจัดจราจร

ถนนเทศบาล ๑ เตรียมรณรงค์ในเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป
       ๓. ตลอดระยะเวลาที่ได้เริ่มจัดทำเขตกวดขันวินัยจราจร บนถนนเทศบาล ๒ เป็นเวลากว่า ๘ เดือน พบผู้ฝ่าฝืนไม่จอดรถให้ตรงกับข้อกำหนดเรื่องป้ายวันคู่ วันคี่ รวมทั้งสิ้นจำนวน ๑๗๙ ราย ซึ่งเทศบาลฯ ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่มุ่งเน้นการให้คำแนะำนำ การให้ความรู้เรื่องการจราจรเป็นประเด็นสำคัญในรายที่ขาดเจตนา

       ๔. ในปีงบประมาณ ๒๕๕๔ นี้ จะได้มีการปรับปรุงเรื่องการทาสีตีเส้นสัญญาณจราจรในจุดเดิมให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงการติดตั้งเพิ่มเติมป้ายสัญาณจราจรและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดทำเนินชะลอความเร็วตามบริเวณต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการชุมชนได้เสนอไว้จากการลงประชาคมเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อชลอความเร็วของรถยนต์ขณะขับขี่เข้าเขตชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนและคนชรา

       ๕. ในการจัดระเบียบจราจร บนถนนเทศบาล ๒ ซอย ๘ หรือซอยหน้าห้างวัฒนานุกิจซิตี้สโตร์ ที่ได้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๑๘ เมษายน ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ยวดยานจอดให้ตรงวันคู่ วันคี่ตามป้ายสัญญาณที่กำหนดไว้ ระหว่างเวลา ๖ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๘ นาฬิกา ทุกวัน  พร้อมรณรงค์ให้เป็นเขตกวดขันวินัยจราจร ได้รับความร่วมมือจากท่านเจ้าของอาคารตลอด ๒ ฝั่งทางด้วยดี ทำให้ประชาชนที่ผ่านไปมา หรือเข้าไปติดต่อค้าขายบริเวณดังกล่าวได้รับความสะดวกคล่องตัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม  โดยทั้งนี้ เทศบาลฯ ยังคงยึดวัตถุประสงค์ในการจัดระเบียบจราจรที่หมายให้ประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง และส่งเสริมท่้านผู้เป็นเจ้าของร้านรวงให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านค้าของท่านด้วยความสะดวกสบาย ไว้เป็นเป้าหมายสำคัญ

เจ้าหน้าที่เทศกิจ ออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความคล่องตัวแก่
คนที่มาติดต่อค้าขายกับร้านรวงในเขตเทศบาล
       ๖. ที่ประชุมได้กำหนดให้มีการจัดทำแผนการจัดจราจรบนถนนเทศบาล ๑ ในระยะต่อจากนี้ไป หลังจากที่ได้มีการสำรวจจัดเก็บข้อมูลประเด็นปัญหา องค์ประกอบต่าง ๆ บนถนนสายดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งจะได้นำเสนอรายละเอียดอีกครั้งในระยะอันใกล้นี้

       ๗. นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเสนอให้มีหนังสือแจ้งให้แขวงการทางระยองและจังหวัดระยอง ได้มาปรับปรุงถนนสุขุมวิทบริเวณร้านตายาย และร้านซำฮะหลี ทั้งสองฝั่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้นเนื่องจากเป็นทางโค้งและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง    ประเด็นเน้นย้ำเรื่องการเตรียมการสำหรับเจ้าหน้าที่ในการจัดจราจรช่วงวันเปิดเทอมแรกในเร็ววันนี้   ประเด็นการสำรวจพื้นที่บริเวณชุมชนหนองควายเขาหัก โดยเฉพาะบริเวณแยกจุดตัดถนนสุนทรภู่ กับถนนสุนทรภู่ ซอย ๔ อันเป็นที่ตั้งของโครงการบ้านเอื้ออาทรที่จะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน จำนวน ๑๙๙ หลัง และมีการขยายตัวของชุมชน ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติได้สูง

ถนนเทศบาล ๒ ซอย ๘ จอดชิดขอบทางตรงวันคู่วันคี่
ให้คนผ่านไปมาได้รับความสะดวกในการติดต่อค้าขาย
       เทศบาลฯ ขอขอบคุณคณะกรรมการที่ปรึกษา ด้านการเดินทางในเขตเมืองและการจัดจราจรไว้ ณ โอกาสนี้ และขอความร่วมมือชาวเมืองแกลงทุกท่านได้ปฏิบัิิติตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อความสะดวกคล่องตัวในการเดินทางของผู้มาติดต่อทำมาค้าขายกับท่านต่อไป

รายละเอียดการประชาสัมพันธ์จัดจราจรถนนเทศบาล ๒ ซอย ๘ (ซอยห้างวัฒนานุกิจฯ) ดูได้ที่...



https://docs.google.com/viewer?url=http://muangklang.com/sp_JOY_/LawCarpark2-8.pdf&pli=1

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

ระดับน้ำคลองประแสสูงขึ้นกว่า ๑ เมตร ส่งสัญญาณเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ร่วมกันติดตามสภาพดินฟ้าอากาศ...เข้ม

ระดับน้ำบริเวณเดียวกันเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔
ระดับน้ำปกติเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔
ระดับน้ำคลองประแสบริเวณสนามกีฬาฯ ล่าสุด ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔
       เมื่อวันอังคารที่ ๒๖ เมษายนนี้ จากการตรวจสอบของเทศบาลตำบลเมืองแกลง พบว่าระดับน้ำในคลองประแสสูงขึ้นจากปกติมากกว่า ๑ เมตร  ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีฝนตกชุกหนาแน่นทั่วไปทางด้านเหนือเขื่อนและใต้เขื่อนโครงการประแส ที่อำเภอวังจันทร์ และมีปริมาณน้ำฝนสะสมกระจายอยู่ทั่วไป ยังผลให้ต้องมีการเปิดเขื่อนดินบริเวณใกล้เคียงกับโรงผลิตน้ำประปาบ้านหนองแหวนของเทศบาลฯ ออก เพื่อทำการระบายน้ำลงสู่ทะเล เพราะมิฉะนั้น จะสร้างความเสียหายให้แก่สวนยาง สวนผลไม้และบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลด้านทิศเหนือ อาทิ บ้านนา ทางเกวียน กระแสบนฯ  ได้  ซึ่งในปีนี้ โดยเฉลี่ยนับแต่ประมาณหลังกลางเดือนกุมภาพันธ์เรื่อยมา มีฝนตกมากกว่าปีก่อน แม้จะเข้าสู่ฤดูร้อนก็ตาม  ซึ่งขณะนี้ สภาพดินฟ้าอากาศโดยทั่วไป ต้องนับว่าเป็นการย่างเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัวไปโดยปริยาย

       ในส่วนงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเอง ได้มีการซักซ้อมแผนการเตรียมการป้องกันปัญหาการระบายน้ำไม่ท้ันในบางพื้นที่ โดยในวันเดียวกัน ได้กำหนดให้มีการจำลองสถานการณ์ดังกล่าว และฝึกซ้อมการประสานงาน การเข้าถึงพื้นที่ การเตรียมการด้านวัสดุอุปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเตรียมกระสอบทรายสำหรับกันน้ำตามแนวถนนที่มียวดยานผ่านขณะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้ระลอกน้ำพัดเข้าบ้านเรือนประชาชนได้  ทั้งนี้ เพื่อประเมินความพร้อมในการเข้าปฏิบัติหน้าที่กรณีเกิดปัญหา  พร้อมกับที่ขณะนี้ เทศบาลฯ กำลังเร่งดำเนินการโครงการจัดหาเครื่องสูบน้ำพญานาคขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเสริมกำลังการระบายน้ำ รวมถึงการเร่งดำเนินการโครงการวางท่อระบายน้ำเพิ่มเติมในอีกสองบริเวณเป้าหมายสำคัญ คือ บริเวณด้านหลังโรงเจสมาคมพุทธประชานุเคราะห์ กุยอิงเกาะ และการวางท่อระบายน้ำตลอดสายของถนนพลงช้างเผือก ซอย ๑ (ซอยบ้านหมอฉวน)

งานป้องกันฯ ซ้อมแผนเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉิน
       เทศบาลฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ขอให้ท่านคอยติดตามการรายงานสภาพดินฟ้าอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อได้เตรียมการมิให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ขับขี่ยวดยานขณะฝนตกหนัก โดยเฉพาะผ่านเข้าไปในเส้นทางที่มีปริมาณน้ำสะสม และเพิ่มการสังเกตป้ายสัญญาณจราจรฉุกเฉินชนิดต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบต่อบ้านเรือนริมถนน  ช่วยกันตรวจสอบปากท่อระบายน้ำ กรณีมีเศษใบไม้เศษขยะกีดขวางการระบายน้ำ ขอความร่วมมือช่วยกันเก็บขึ้น  และท่านสามารถโทรศัพท์ติดต่อประสานงานหรือแจ้งขอความช่วยเหลือได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงที่ ๐๓๘ ๖๗๑๑๙๖ และ ๐๓๘ ๖๗๑๐๐๐ 


    

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

ขยะ..จะไม่แขยง ที่แกลงเขาแปลงเป็นแต้มสะสมไว้แลกสารพันเครื่องใช้

ทุกฝ่ายขมักเขม้นอย่างเห็นความสำคัญ

       วันเสาร์ที่ ๒๓ อันเป็นเสาร์ที่ ๓ ของเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ เป็นวันนัดสำหรับบรรดาสมาชิกในโครงการ "ขยะแลกแต้ม" ที่ปัจจุบัน เปิดดำเนินการอยู่ ๒ แห่ง คือสำนักงานเทศบาลตำบลเมืองแกลง และที่ชุมชนโพธิ์ทอง มีสมาชิกในขณะนี้รวมทั้งสิ้น ๑๑๓ ราย ไม่นับรวมสมาชิกในระบบโรงเรียนที่เทศบาลได้เริ่มต้นขึ้นมาก่อนหน้า และจะทวีความเข้มข้นของโครงการขยะแลกแต้มในโรงเรียนตั้งแต่เปิดเทอมที่จะถึงนี้เป็นต้นไป

       กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้รับขยะจากสมาชิกทั้งหมดในครั้งนี้ จำนวนกว่า ๘๐๐ กิโลกรัม ดังรายการต่อไปนี้ 


                          1. พลาสติก  จำนวน ๗๓.๗ กิโลกรัม
                          2. โลหะ    จำนวน  ๔๗.๔   กิโลกรัม
                          3. กระดาษ  จำนวน   ๑๔๙ กิโลกรัม
                          4. แก้ว   จำนวน   ๓๔๒      กิโลกรัม
                          5. กล่องนม   จำนวน  ๑๓๖.๘  กิโลกรัม  

เจ๊นุช แห่งร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง จอมรวบรวมถุงพลาสติค
       สำหรับสมาชิกรายใหม่ คือคุณปราณี สุธาโร เจ้าของร้านมินิมาร์ทบนถนนเทศบาล ๒ ได้เก็บรวมรวมกล่องนม กล่องน้ำผลไม้ซึ่งที่ร้านจำหน่ายนมและน้ำผลไม้ไว้เป็นจำนวนมาก โดยเก็บล้างทำความสะอาดมาอย่างเรีียบร้อยถึงกว่าร้อยกิโลกรัม  ส่วนคุณนงนุช ยั่งยืน ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ถนนสุนทรโวหาร เป็นอีกท่านหนึ่งที่เก็บถุงพลาสติคจากห่อก๋วยเตี๋ยวและถุงใส่อาหารอย่างสะอาดเรียบร้อยมาจำหน่ายถึงเจ็ดสิบกว่ากิโลกรัม  ซึ่งทั้งสองราย นับเป็นตัวอย่างของการปรับพฤติกรรมจากกิจวัตรอาชีพประจำของตน เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยการนำขยะรีไซเคิลให้สามารถนำกลับไปแปรรูปหรือใช้ใหม่ โดยตัวเองก็สามารถสะสมแต้มไว้แลกของอุปโภคบริโภคจากเทศบาลฯ กลับไปได้  ซึ่งเทศบาลฯ ขอชื่นชมมา ณ โอกาสนี้

แผนกแบก...แผนกแลก 
       ตรงกันข้าม หากขยะรีไซเคิลจำนวน ๘๐๐ กิโลกรัมที่เทศบาลฯ รับจากประชาชนในวันนี้ ไม่มีการเก็บรวบรวมและทิ้งเป็นขยะ ก็จะกลายไปเป็นภาระค่าใช้จ่ายถึงไม่น้อยกว่า ๘๐๐ บาทสำหรับค่าจัดเก็บและนำไปฝังกลบอย่างน่าเสียดาย เทศบาลฯ จึงขอความร่วมมือทุกท่านได้ช่วยกันในทุกวิธีที่จะบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนจนทำให้เกิดภัยพิบัติอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ต่อไป

ทุกชุมชนชื่นใจ...ร่วมกันทำบุญส่งท้ายสงกรานต์ ว่ากันไปตามถนัด

ส.ท.อุทัย คอยช่วยอำนวยการและให้การต้อนรับญาติโยมที่มาทำบุญ
คึกคักทุกปี เพราะปู่ย่าตายายฉันทำกันมาอย่างนี้
       เมื่อผ่านวันสงกรานต์ที่แต่โบราณเคยได้ชื่อว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยเราไปแล้ว  สำหรับชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลตำบลเมืองแกลง รวมถึงบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ทะเลน้อย วังหว้า เขาดิน ฯ  ชาวบ้านในแต่ละย่าน ยังมีอีกงานหนึ่งที่จะต้องร่วมกันกระทำต่อไป นั่นคือ การทำบุญสวดมนต์และถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยการนิมนต์ให้ไปสวดมนต์ตามแต่ละย่านแต่ละชุมชน ใครสะดวกหรือใกล้หรือเคยทำบุญตรงที่ใด ก็มักจะทำกันตรงนั้นเรื่อยมา

มหากบ..ชักผ้าป่าไว้นำเงินปัจจัยจัดซื้อที่ดินให้วัด
       จุดประสงค์หลักของการทำบุญที่เราเรียกกันในโอกาสนี้ว่า "ทำบุญส่งท้ายสงกรานต์" ก็เพื่อจะใช้เป็นโอกาสนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ให้ศีลให้พรในโอกาสวันสงกรานต์ นิมนต์มาฉันภัตตาหาร และสิ่งที่สำคัญคือ ลูกหลานจะได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้แก่ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้อง ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว โดยการกรวดน้ำหรือเขียนชื่อแซ่ใส่ในโกศ เพื่อนิมนต์พระสงฆ์ไปบังสุกุลอุทิศให้แก่ผู้วายชนม์  และนอกจากนี้ ยังได้ทำเรือจำลอง แล้วใส่อาหารคาวหวาน นำไปลอยในคลองประแส เป็นนัยยะที่จะส่งอาหารคาวหวานไปให้แก่ผู้ล่วงลับ และเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศกไปกับเรือเพื่อความโชคดี และอยู่เย็นเป็นสุขไปตลอดปีใหม่

สดชื่น แจ่มใส เบิกบานใจ

  และเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายนนี้ ชุมชนแกลงแกล้วกล้า ชุมชนหนองแหวน ก็ได้จัดทำบุญส่งท้ายสงกรานต์ขึ้นในซอยรุ่งนภาฯ และ ณ ที่ทำการชุมชนหนองแหวนแล้วตามลำดับ หลังจากที่ชุมชนสารนาถฯ และชุมชนสุนทรโวหาร ได้ดำเนินการไปก่อนแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ เมษายนที่ผ่านมา   ส่วนชุมชนหนองควายเขาหัก ชุมชนพลงช้างเผือก และชุมชนหนองกระโดง ก็ได้ทำบุญส่งท้ายสงกรานต์แล้วเช่นกัน ณ ศาลาแหลมท่าตะเคียนหลังใหม่ ดังที่ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมานานปี  โดยในปีนี้ ญาติโยมที่มาทำบุญ ได้ร่วมกันตั้งกองผ้าป่าเพื่อนำเงินปัจจัยไปใช้ในโครงการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมให้แก่วัดพลงช้างเผือก โดยเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว คณะกรรมการศาลาแหลมท่าตะเคียนคาดว่าจะมีเงินเข้าสมทบอีกประมาณ ๒ หมื่นบาท ซึ่งขอโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้

ชุมชนหนองแหวน
       ส่วนชุมชนต่าง ๆ จะยังทยอยทำบุญส่งท้ายสงกรานต์ต่อไปจนถึงราวสิ้นเดือนเมษายน โดยท่านคณะกรรมการชุมชนสามารถแจ้งข่าวสารมายังงานประชาสัมพันธ์เทศบาลฯ เพื่อแจ้งข่าวได้ต่อไป

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

คุมกำเนิดหมาแมวรวม ๖๑ ตัว เทศบาลฯ หมายช่วยท่านให้เลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงอย่างมีคุณภาพ

        เมื่อวันพุธที่ ๒๐ เมษายนนี้ เทศบาลตำบลเมืองแกลง ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอแกลง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดระยอง ออกให้บริการทำหมันแก่สัตว์เลี้ยง (สุนัข แมว) ณ ศูนย์เยาวชนตลาด ๔ ป้ายทันใจ ดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา หลังจากได้ออกให้บริการฉีดวัคซีนแก่สัตว์เลี้ยงของท่านไปมากกว่า ๒๐๐๐ ตัวแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้

       ในการทำหมันแก่สุนัขและแมวครั้งนี้ ได้ให้บริการแก่ท่านเจ้าของสัตว์เลี้ยง โดยมีสุนัขที่นำมาทำหมัน เป็นเพศผู้ ๒๐ ตัว เพศเมีย ๑๖ ตัว  แมวที่มาทำหมัน เป็นเพศผู้ ๑๕ ตัว เพศเมีย ๑๐ ตัว รวมสัตว์เลี้ยงที่นำมาทำหมันทั้งสิ้น ๖๑ ตัว ซึ่งเทศบาลตำบลเมืองแกลง ขอขอบพระคุณสัตว์แพทย์จากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอแกลง และปศุสัตว์จังหวัดระยองทุกท่าน

        พร้อมกันนี้ ขอแนะนำให้ท่านเจ้าของสัตว์เลี้ยง ได้ให้ความรักความเอ็นดูต่อสัตว์เลี้ยงของท่านอย่างสม่ำเสมอ โดยเลี้ยงในจำนวนเท่าที่ท่านจะให้การดูแลได้ หากเกินกำลังที่จะเลี้ยงดู ขอแนะนำให้นำไปทำหมันเพื่อคุมกำเนิด  ไม่ก่อให้เกิดเหตุรำคาญแก่เพื่อนบ้านในเรื่องเสียง กลิ่น หรือเหตุำรำคาญเรื่องการถ่ายมูลและปัสสาวะ  หมั่นสังเกตอาการ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนนี้ ในรายที่ยังไม่ได้ไปฉีดวัคซีน

ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่
 https://picasaweb.google.com/112954231219227709171/KGJSvF?authkey=Gv1sRgCK_Xh6KswYCN0AE#5597658718231535906

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

เยี่ยมเรือนเยือนถิ่นเมืองแกลง ตอนที่ ๒...ถนอม ยินดี...คนพอดี ๆ แห่งบ้านพลงช้างเผือก

ถั่วพลูฝักเดียวแทบจะอยู่ท้องกันเลยทีเดียว
       วันอังคารที่ ๑๙ เมษายนที่ผ่านมา เมืองแกลงนิวส์ได้ไปเยี่ยมบ้านนายถนอม ยินดี หรือลุงเป๊ก ในซอยอริยคุณ ชุมชนพลงช้างเผือก เนื่องจากทราบว่าที่นี่ มีลูกมะยงชิด ขนาดผลโตเท่าไข่เป็ดและรสชาดดีเหลือหลาย

       บริเวณสวนหลังบ้านเนื้อที่เกือบ ๑ไร่ แม้อาจจะมองว่า ไม่ค่อยได้จัดระเบียบในการปลูกต้นไม้สักเท่าไร แต่ในสภาพดังนี้ สิ่งที่ได้คือร่มเงาของต้นไม้หลากชนิดที่เลื้อยกิ่งต้นกอดก่ายกันไปทั่วบริเวณ ลุงเป๊กแกมีครัวอยู่หลังบ้าน ทั้งไม้เครื่องเทศสารพัด มีถั่วพลูที่พลูมีขนาดใหญ่ทานอร่อย เลื้อยอยู่บนค้างให้เก็บทานกันไม่หวาดไม่ไหว มีชมพู่รสหวาน และมีผลไม้อีกหลายชนิดในพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งได้ปุ๋ยดีจากการหมักน้ำจุลินทรีย์อีเอ็มไว้ใช้เองตลอดเวลา ข้อสำคัญ ลุงเป๊กรู้จักการทาบกิ่ง และต่อยอดต้นผลไม้หลายชนิด เพื่ออาศัยรากต้นไม้ที่หาอาหารเก่งไว้คอยเลี้ยงต้น และย่นระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ ได้มาจากการลองผิดลองถูก การสังเกต และการหาตำรับตำรามาอ่านยามว่างจนเกิดเป็นประสบการณ์

       นอกจากนี้ ยังเลี้ยงเป็ดไว้กินไข่ โดยอาศัยเศษอาหารจากร้านอาหารที่เหลือทิ้งผสมกับรำข้าวจากโรงสีของลุงโรจน์ใกล้บ้าน ทำให้ไม่เพียงแต่ลดรายจ่าย ผลไม้ ไข่เป็ด พืชผักทั้งหลายยังมีพอแบ่งปันจุนเจือเพื่อนฝูงและเครือญาติเรื่อยมา

เสริมรากมาช่วยกันหาอาหาร
       สวนหลังบ้านของลุงเป๊ก นายถนอม ยินดี จึงให้ทั้งความเพลิดเพลิน พาสุขใจ ให้ทั้งน้ำจิตน้ำใจแก่ผู้อื่น ให้มีพืชผัก ผลไม้สดสะอาดไว้รับประทานเอง  และให้ทั้งข้อคิดว่า การลดรายจ่ายในชีวิตประจำวัน มีความหมายเท่ากับการเพิ่มรายได้ประจำวันพร้อมกันไปในตัว


       เมืองแกลงนิวส์จะนำเสนอผลการเยือนโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชนบ้านหนองแหวนในคราวหน้าต่อไป

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

เยี่ยมเรือนเยือนถิ่นเมืองแกลง ตอนที่ ๑...วัดพลงฯ เตรียมปรับพื้นที่โล่งเปล่า (Space Area) ๑๓ ไร่ด้านหลังวัดผืนใหม่เป็นพื้นที่ป่า

พระมหาชวน ชยกโร เจ้าอาวาสวัดพลงช้างเผือก
ผู้นำที่เล็งเห็นประโยชน์ของการตระเตรียมที่ทาง
สำหรับลูกหลานวันหน้า และการปลูกผืนป่าในเมืองแกลง
       เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๘ เมษายนที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีตำบลเมืองแกลง ได้เดินทางไปกราบนมัสการท่านเจ้าอาวาสวัดพลงช้างเผือก เพื่อปรึกษาหารือกรณีที่วัดพลงช้่างเผือก ได้ร่วมกับคณะกรรมการ ศิษยานุษิตย์ พี่น้องชาวเทศบาล และผู้ใจบุญทั้งหลาย ระดมทุนทรัพย์ในการตั้งเป็นกองทุนจัดซื้อที่ดินให้กับทางวัด เพื่อให้วัดพลงช้างเผือกที่ได้สร้างขึ้นมาแต่ปี พ.ศ.๒๔๒๗ ได้มีที่ดินขยับขยายเพิ่มขึ้นสำหรับใช้ในศาสนกิจและำสำหรับลูกหลานวันข้างหน้าต่อไป เพราะยิ่งนานวัน ก็รังแต่จะยิ่งขยับขยายพื้นที่ได้ยากยิ่งขึ้น  โดยในขณะนี้ได้ที่ดินเพิ่มขึ้นทางด้านหลังของวัดรวมประมาณ ๑๓ ไร่ และยังมีความจำเป็นต้องระดมทุนทรัพย์บริจาคอีกเป็นจำนวนมากจากท่านต่อไปเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว



พื้นที่แห่งใหม่ ๑๓ ไร่ของวัดที่ได้มาจากการร่วมบริจาคเงิน
ของประชาชนในการจัดซื้อที่ดินอย่างน่าโมทนา
       นอกจากนี้ เทศบาลฯ จะได้ร่วมกับทางวัดในการปรับสภาพที่ดินผืนใหม่นี้ ให้ีมีลักษณะเป็นสวนป่า อันประกอบไปด้วย ไม้ยืนต้นชนิดที่เป็นไม้เนื้อแข็งมีคุณค่า มีอายุยืนนาน สามารถนำเนื้อไม้มาใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต ไม้ยืนต้นชนิดมีลูกผล ยอดใบเป็นอาหารสำหรับคนและสัตว์ต่าง ๆ ไม้่ยืนต้นชนิดที่สามารถนำไปทำยาสมุนไพรได้ ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ร่วมกันพิจารณาชนิดของต้นไม้ และมีโครงการจะร่วมกันปลูกไม้ยืนต้นกับทางวัดและพี่น้องชาวเทศบาลในราวกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ในโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งกำัลังจะเข้าสู่ฤดูฝน เพื่อสร้างความร่มรื่น ร่มเย็น สร้างร่มเงา บรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อน และดินฟ้าอากาศแปรปรวน สร้่างผืนป่าอีกผืนหนึ่งในเมืองแกลง เพื่อประโยชน์สำหรับสาธารณะชนต่อไปทั้งในวันนี้และวันหน้า

แปลงที่ดิน ๑๓ ไร่ มีสวนยางเดิมบางส่วน
ที่วัดมีแนวโน้มจะพิจารณาคงไว้ เพราะมีความร่มรื่นมาก
       เทศบาลฯ จึงขอเชิญชวนทุกท่านได้ช่วยกันยังประโยชน์สำหรับบ้านเมืองในการปลูกต้นไม้ยืนต้นในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเหมาะสม ควบคู่ไปกับการปลูกพืชระยะสั้น สำหรับใช้เป็นอาหาร อาทิ ข้าวและผักชนิดต่าง ๆ เพื่อเมืองแกลงมั่นคง อาหารมั่งคั่งบริบูรณ์

      

      

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

พึ่งพาดิน น้ำเพื่อทำอาชีพเกษตรเท่านั้น ที่จะช่วยยันแกลง เขาชะเมา วังจันทร์ ให้ปลอดภัยและน่าอยู่อย่างยั่งยืน

       ข้อมูลด้านเศรษฐกิจของจังหวัดระยองปี ๒๕๕๒ พบประเด็นน่าสนใจดังนี้


๑. รายได้คนระยองต่อคนต่อหัวต่อปี สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ คือ ๑,๐๐๔,๔๙๔ บาท/คน/หัว/ปี

๒. แต่ในรายได้ที่สูงที่สุดเช่นนี้ มาจากมูลค่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมี ปิโตรเลียม เหมืองแร่ เหมือนหิน ถึงร้อยละ ๙๗  ขณะที่มูลค่าการผลิตภาคเกษตรในพื้นที่จังหวัดระยองมีเพียงร้อยละ ๓

๓. พื้นที่ด้านการเกษตรในจังหวัดระยองอยู่ที่ร้อยละ ๖๘ มีแนวโน้มลดลงตลอดเวลา ขณะที่พื้นที่ภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ร้อยละ ๓๒ และกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ

๔. พื้นที่อุตสาหกรรมหลัก กระจายตัวในรูปของเขตนิคมอุตสาหกรรม ๘ แห่ง เขตประกอบการอุตสาหกรรม ๕ แห่ง ชุมชนอุตสาหกรรม ๔ แห่ง กลุ่มอุตสาหกรรม ๒ แห่ง ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบ้านฉาง อำเภอปลวกแดง อำเภอบ้านค่าย อำเภอนิคมพัฒนา ขณะที่พื้นที่เพาะปลูกยางพารา และผลไม้ มีการกระจายตัวหนาแน่น อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแกลง อำเภอวังจันทร์ อำเภอเขาชะเมา

๕. เราปลูกยางพาราในพื้นที่ถึง ๗๕๒,๒๙๐ ไร่ (ร้อยละ ๖๕)  ทุเรียน ๘๐,๕๙๑ ไร่ (ร้อยละ ๗) สับปะรด ๑๖๗,๘๘๐ ไร่ (ร้อยละ ๑๕) ขณะที่มีการทำนาปลูกข้าวเหลืออยู่เพียง ๒๓,๔๕๓ ไร่ (ร้อยละ ๒) และสำหรับพื้นที่ปลูกพืชผัก มีจำนวนน้อยมากจนไม่อาจคำนวณเป็นร้อยละได้

       นั่นหมายความว่า โครงสร้างการผลิตภาคการเกษตรในพื้นที่สามอำเภอหลักอย่างแกลง วังจันทร์ เขาชะเมา เรานิยมปลูกยางพาราที่ราคาดี แต่ไม่ใช่พืชอาหารสำหรับมนุษย์ ปลูกทุเรียนและผลไม้อีกหลายอย่าง อาทิ เงาะ ลองกอง มังคุด ฯ ที่ต้องดูแลรักษากันทั้งปี แต่มีผลผลิตให้เพียงปีละหนึ่งฤดูกาล ซึ่งผลผลิตนั้นออกในระยะเดียวกันทั้งสิ้น เพราะอยู่ในสภาพดินฟ้าอากาศเดียวกัน จึงประสบปัญหาด้านราคาตกต่ำตลอดมา   ตรงกันข้ามกับการทำนาที่ให้ข้าว และการปลูกผัก ซึ่งเราต้องรับประทานกันอยู่วันละ ๓ เวลาทุกวันเพื่อยังชีวิตนั้น เรากลับไม่นิยมปลูก แต่เลือกที่จะหันไปพึ่งพาผลผลิตจากจังหวัดอื่น ที่เราไม่อาจได้เห็นกระบวนการในการผลิตว่าสะอาดถูกหลักอนามัยเพียงใด และต้องอาศัยการเดินทางขนส่งนานนับวัน ทำให้ขาดความสด  และมีราคาแพงกว่าท้องที่อื่น เนื่องจากในพื้นที่ของเราไม่ยอมปลูกข้าวปลูกผักกัน

       เทศบาลตำบลเมืองแกลง จึงตระหนักในข้อมูลประเด็นต่าง ๆ ข้างต้นเหล่านี้ และเห็นว่า โครงสร้างผลผลิตทางการเกษตรต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เกิดความเหมาะสม ให้เมืองสามารถพึ่งพาตนเองด้านการมีแหล่งอาหารสำหรับบริโภคในพื้นที่กันเองได้ จึงพยายามส่งเสริมเรื่องการทำนาทั้งในเขตและนอกเขตเทศบาลเรื่อยมา เนื่องจากสภาพธรณีสัณฐานในหลายบริเวณมีความเหมาะสมเกื้อกูลให้ทำนาปลูกข้าวปลูกผักได้อย่างสอดคล้องกับสภาพธรรมชาติและดินฟ้าอากาศที่เป็นใจ  ประชาชนทั่วไปก็จะได้บริโภคผลผลิตที่สะอาดปลอดภัยเพราะทำให้เห็น และมีราคาย่อมเยากว่าการซื้อจากที่อื่นได้อย่างแน่นอน

       ขณะเดียวกัน เมื่อได้พิจารณาการขยายตัวขยายพื้นที่ของภาคอุตสาหกรรมที่แทรกซึมไปในหลายอำเภอด้านทิศตะวันตกของจังหวัดระยองเองแล้ว  ก็เห็นว่า เราควรจะช่วยกันรักษาพื้นที่การผลิตภาคการเกษตรของแกลง วังจันทร์ เขาชะเมาเอาไว้ด้วยการทำเกษตรอย่างยั่งยืน ให้อาชีพทางการเกษตรของคนทั้งสามอำเภอทางด้านทิศตะวันออกของจังหวัด ได้เป็นเครื่องช่วยรักษาสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกื้อกูลต่อการดำเนินชีวิตของเราตลอดไป โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการผลิตในภาคอื่นที่แปลกปลอมและไม่สอดรับกับสิ่งแวดล้อมตลอดจนวิถีชีวิตของคนในพื้นที่แต่อย่างใด

สงกรานต์เมืองแกลง วัดวาคึกคัก ถนนเข้าแกลงติดลมบน..ชุ่มฉ่ำร่าเริง

       วันมหาสงกรานต์ในปีนี้ เทศบาลตำบลเมืองแกลง ได้ร่วมกับคณะสมาชิกสภาเทศบาลฯ คณะกรรมการชุมชนต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนกำหนดการและกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้นใหม่่ในหลายส่วน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมสอดคล้องกับภาวการณ์ ทั้งนี้ ยังคงกิจกรรมหลักที่สำคัญเอาไว้ คือ การทำบุญถวายภัตตาหารเพลที่วัดสารนาถธรรมาราม ร่วมกับบรรดาสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ และผู้แทนชุมชน ขณะที่วัดโพธิ์ทองพุทธาราม และวัดพลงช้างเผือก ก็ได้มีการจัดพิธีทำบุญสวดมนต์ถวายภัตตาหารเช้าเช่นทุกปีที่ผ่านมา  นอกจากนี้ ยังได้จัดนิมนต์พระพุทธนวราชบพิตร พระประจำอำเภอแกลง และนิมนต์คณะพระภิกษุจากวัดสารนาถธรรมาราม พร้อมด้วยผู้สูงอายุจากทุก ๆ ชุมชน มาประกอบพิธีสรงน้ำ และรดน้ำดำหัวขอพรจากประชาชนทั่วไป

        ส่วนวันจัดงานสงกรานต์นั้น ได้ขยับขึ้นมาเป็นวันที่ ๑๒ และวันที่ ๑๓ ณ ลานหน้าเรือน หอประวัติเมืองแกลงจากเดิมที่จัดกันในวันที่ ๑๔ โดยมีการแห่ขบวนสงกรานต์เพียงวันเดียว โดยในบ่ายของทั้งสองวัน ได้จัดการแข่งขันเปตอง สะบ้าทอย สะบ้าล้อ เซปรัคตะกร้อ และตะกร้อลอดห่วงขึ้น ควบคู่ไปกับการนำเอาขนมหวานจากชุมชนต่าง ๆ มาแสดงฝีมือจำหน่ายกันในงานเป็นปีแรก พร้อมกับได้จัดกิจกรรมการแสดงลำตัดคณะกำนันสำเริง คนฑา ที่มีความสนุกสนานตามประสาพื้นบ้านคนเมืองแกลง กิจกรรมการแสดงหนังใหญ่วัดบ้านดอน จากอำเภอบ้านค่าย และรำวงจากชุมชนหนองกระโดง ส่วนในรูปขบวนแห่สงกรานต์นั้น ได้ปรับไปเิริ่มต้นจากวัดสารนาถธรรมารามและสิ้นสุด ณ ลานหน้า่เรือน หอประวัติเมืองแกลง เพื่อย่นระยะทางให้กระชับขึ้น  ขณะที่ถนนเทศบาล ๓ หรือ "ถนนเข้าแกลง" ที่มีความยาวประมาณ ๑ กิโลเมตรนั้น เทศบาลฯ ได้คงกิจกรรมการแสดงดนตรีไว้ในบ่ายวันที่ ๑๒ โดยที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่น เดินทางเข้ามาเล่นสาดน้ำสงกรานต์อย่างคลาคล่ำเป็นประจำเช่นทุกปี


       ทั้งนี้ ยังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนขึ้นใน ๒ จุด คือที่บริเวณลานหน้าเมือง ถนนบ้านบึง แกลง และที่หน้าอาคารป้องกันบรรเทาสาธาณภัย ถนนสุนทรภู่ เพื่อลดอุบัติเหตุอุบัติภัยบนท้องถนน

    
       การจัดงานสงกรานต์ในปีนี้ จึงนับเป็นคราวแรกที่ได้เริ่มต้นการจัดเทศกาลขนมหวานขนมไทยพื้นบ้าน ซึ่งสามารถเข้ากับบรรยากาศของเทศกา่ลได้ดี โดยที่เทศบาลฯ จะได้พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในปีต่อไป เพื่ออนุรักษ์ฝีมือการปรุงของหวานและขนมไทยพื้นบ้านเอาไว้ และขอถือโอกาสนี้อวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพพลานามัยที่ดี และมีความสุขีในโอกาสปีใหม่ไทยนี้โดยทั่วกัน

ความเป็นมาของวันมหาสงกรานต์ ติดตามได้ที่ http://www.myhora.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-003.aspx

    

 

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

ยอดเขาแห่งน้ำใจชาวเมืองแกลง รินไหลเป็นกำลังใจแก่ผู้ประสบภัยพิบัติปลายน้ำแล้ว..ในที่สุด

       วันจันทร์ที่ ๑๑ เมษายน ศกนี้ ผู้แทนจากสำนักงานเทศบาลตำบลเมืองแกลง ประกอบด้วย นายสมชาย จริยเจริญ นายกเทศมนตรี นายปรวีร์ วัฒนานุกิจ ประธานสภาเทศบาลตำบลเมืองแกลง พร้อมด้วยผู้แทนฝ่ายชุมชน ผู้แทนชมรม ผู้แทนฝ่ายข้าราชการเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยได้เข้าพบกับนายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายประวิทย์ หาญณรงค์ เลขาธิการมูลนิธิฯ ในเวลา ๑๐ นาฬิกา ณ สำนักงานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เพื่อนำเงินจากการระดมทุนทรัพย์ของพี่น้องชาวเมืองแกลง และประชาชนทั่วไปที่มีความประสงค์จะให้การช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ที่ประสบกับเหตุภัยพิบัติฝนตกหนัก ดินโคลนถล่ม ไปมอบให้ผ่านทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ จำนวนเงินทั้งสิ้น ๑,๐๖๙,๕๒๗.๔๙ บาท  ในการนี้ นายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิฯ ได้กล่าวฝากแสดงความขอบคุณในน้ำใจอันเปี่ยมล้นด้วยความรู้สึกห่วงใยต่อผู้ที่ประสบกับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาิติของพี่น้องชาวเมืองแกลง มา ณ โอกาสนี้ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ที่จะนำเอาความห่วงใยจากน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับประชาชนชาวไทย ไปให้การช่วยเหลือสงเคราะห์แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก

       จากนั้น คณะจากเทศบาลตำบลเมืองแกลง ได้เดินทางไปลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อเป็นตัวแทนของพี่น้องชาวเมืองแกลง ไปถวายความจงรักภักดี และถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทรงมีพระสุขภาพพลานามัยแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ทองแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดไป

       และในเวลา ๑๕ นาฬิกา คณะจากเทศบาลตำบลเมืองแกลง ได้เดินทางไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ เพื่อนำเงินจากการระดมทุนทรัพย์ของพี่น้องชาวเมืองแกลง และประชาชนทั่วไปจำนวนทั้งสิ้น ๒๕๕,๘๒๓.๑๔ บาท ไปมอบผ่านสถานทูตญี่ปุ่น เพื่อได้นำไปช่วยเหลือพี่น้องชาวญี่ปุ่นที่ประสบภัยพิบัติจากคลื่นยักษ์สึนามิ  ในการนี้ ท่านอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนรับมอบเงินดังกล่าว และจะได้นำทุนทรัพย์นี้ไปมอบผ่านทางสภากาชาดญี่ปุ่น เพื่อนำเอาความห่วงใยของชาวเมืองแกลงลงสู่พื้นที่ภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป ซึ่งท่่านอัครราชทูตญี่ปุ่น ได้กล่าวฝากแสดงความขอบคุณมายังพี่น้องชาวเมืองแกลง จังหวัดระยอง ที่ได้แสดงน้ำใจ และแสดงความเป็นมิตรแท้ยามยากให้ประจักษ์ ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้ขาวญี่ปุ่น ในการเร่งฟื้นฟูความเสียหายบอบช้ำในครั้งนี้ ให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว

       และในการเปิดระดมทุนทรัพย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทั้งที่ประเทศญี่ปุ่น และพี่น้องชาวใต้ในครั้งนี้ เทศบาลตำบลเมืองแกลง ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่พันผูกสายใยแห่งความรักความเมตตา ความมีน้ำใจของชาวเทศบาลทุกท่าน ตลอดจนประชาชน หน่วยงาน ห้างร้านทั่วไป ได้กระทำภารกิจนี้สำเร็จเรียบร้อยด้วยดีทุกประการ ด้วยการสนับสนุนร่วมมือจากทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน ซึ่งเงินจำนวนทั้งสิ้น ๑,๓๒๕,๓๕๐.๖๓ บาท (หนึ่งล้านสามแสนสองหมื่นห้าพันสามร้อยห้าสิบบาท หกสิบสามสตางค์) ได้ส่งถึงหน่วยประสานงานรับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ได้ตามเป้าหมายทุกประการ โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น  เทศบาลตำบลเมืองแกลง ขอกราบขอบพระคุณและขอโมทนาในน้ำใจความมีเมตตาและเนื้อนาบุญที่เราทั้งหลายได้กระทำร่วมกันไว้อย่างงดงามมา ณ โอกาสนี้

    

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

ตัดบัวไม่เหลือใย แต่ตัดธารน้ำใจชาวเมืองแกลง ยากจะตัดให้ขาด แม้ปิดศูนย์ฯ ยอดบริจาคยังหลั่งไหล

ชมภาพเพิ่มเติมที่   https://picasaweb.google.com/maepim/72011#


       ว้ันพฤหัสบดีที่ ๗ เมษายน นับเป็นวันที่ ๘ ของการเปิดรับบริจาคระดมทุนทรัพย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ที่ญี่ปุ่นและผู้ประสบภัยน้ำท่วมดินโคลนถล่มที่ภาคใต้ของไทย แต่ในส่วนการตั้งศูนย์อำนวยการฯ ที่สี่แยกป้ายทันใจนั้น เทศบาลตำบลเมืองแกลงได้ยุติลงแต่เมื่อวานตอนบ่าย

       กระนั้นก็ตาม ในวันนี้ยังมีประชาชนเดินทางมาบริจาคเงินให้ที่สำนักงานเทศบา่ลตำบลเมืองแกลงอีกจำนวน ๑๑,๓๐๐ บาท  และในส่วนของชุมชนดอนมะกอก ได้นำเงินบริจาคมาสมทบเพิ่มอีก ๑,๒๔๐ บาท  ส่วนของชุมชนแกลงแกล้วกล้านั้น นายปรวีร์ วัฒนานุกิจ ประธานสภาเทศบาลฯ พร้อมด้วย ส.ท.สุรศักดิ์ ประไพสนธิพงศ์ ส.ท.ศุภกร แสงพงษ์พิทยา พร้อมด้วยคณะกรรมการชุมชน ยังคงเดินหน้าระดมทุนทรัพย์ในพื้นที่ของชุมชนตามหมายกำหนดการเดิม จนมียอดบริจาคเพิ่มเข้ามาอีก ๓๐,๐๐๐ บาทถ้วน  ยังผลให้ในวันนี้ มีเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้เพิ่มเข้ามาอีกจำนวน ๔๒,๕๔๐ บาท

       ทำให้ยอดบริจาครวมทั้งสิ้นนับแต่วันแรก เป็นเงิน ๑,๒๑๘,๗๓๔.๒๕ บาท (หนึ่งล้านสองแสนหนึ่งหมื่นแปดพันเจ็ดร้อยสามสิบสี่บาทยี่สิบห้าสตางค์)


       แยกเป็นช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเงิน ๒๔๙,๐๗๐.๐๐ บาท


       เงินช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมดินโคลนถล่มเป็นเงิน ๙๖๙,๖๖๔.๒๕ บาท


       โดยในวันพรุ่งนี้เวลา ๑๒.๐๐ น. เทศบาลฯ จะได้ทำการปิดบัญชีและดำเนินการด้านธุรกรรมทางการเงินให้เรียบร้อย ก่อนที่จะได้ส่งตัวแทนจากเทศบาลฯ ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายสภาเทศบาลฯ ฝ่ายคณะกรรมการชุมชนและชมรม ร่วมกันเดินทางไปมอบเงิน ณ สถานทูตญี่ปุ่น และมูลนิธิ ราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในวันจันทร์ที่ ๑๑ เมษายนนี้

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

สุดทางแห่งรัก...เมืองแกลงเตรียมกรุยทางนำความห่วงใยสู่แดนใต้และญี่ปุ่นตามสัญญาใจ



       และแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดราชการเนื่องใจวันจักรี ๖ เมษายน  กระนั้นก็ดี บรรดาเ้จ้าหน้าที่จากกองช่าง คณะผู้บริหาร เหล่าสมาชิกสภาฯ คณะกรรมการชุมชนโพธิ์ทอง และหนองแตงโม ตลอดจนอาสาสมัครทุกส่วนยังเดินหน้าระดมทุนทรัพย์ที่นับเป็นวันสุดท้ายของการตั้งศูนย์อำนวยการฯ ซึ่งจะปิดตัวเร็วกว่ากำหนดการเดิมในวันที่ ๘ เมษายนนี้ เพื่อความเหมาะสม เหมาะควรและสอดคล้องกับสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือ

       โดยมียอดการระดมทุนทรัพย์ประจำวันที่ ๖ เมษายน ดังนี้

ที่ศูนย์อำนวยการฯ ถนนสุขุมวิท แยกป้ายทันใจ

เงินช่วยพี่น้องชาวใต้    ๑๒๐,๔๕๙.๐๐    บาท
เงินช่วยชาวญี่ปุ่น                ๑,๑๑๕.๐๐     บาท
      รวมเป็นเงิน               ๑๒๑,๕๗๔.๐๐    บาท


บริเวณชุมชนวัดโพธิ์ทองฯ
 เงินช่วยพี่น้องชาวใต้      ๒,๔๖๘.๐๐  บาท
  เงินช่วยชาวญี่ปุ่น                      ๐.๐๐  บาท
        รวมเป็นเงิน                 ๒,๔๖๘.๐๐ บาท


บริเวณชุมชนหนองแตงโม
 เงินช่วยพี่น้องชาวใต้       ๖,๐๘๒.๐๐  บาท
 เงินช่วยชาวญี่ปุ่น              ๒,๑๑๒.๐๐ บาท
       รวมเป็นเงิน                  ๘,๑๙๔.๐๐ บาท

สรุปยอดรวมทั้งหมดวันนี้ เป็นเงิน ๑๓๒,๒๓๖.๐๐ บาท

       สรุปยอดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม จนถึงวันที่ ๖ เมษายน โดยเทศบาลตำบลเมืองแกลง (คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ข้าราชการเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการชุมชน ชมรมต่าง ๆ ) ปรากฏผลอย่างไม่เป็นทางการ ดังนี้

เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือภาคใต้         ๙๒๗,๑๒๔.๒๕ บาท
เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวญี่ปุ่น      ๒๔๙,๐๗๐.๐๐ บาท

     รวมยอดรับบริจาคทั้งสิ้น              ๑,๑๗๖,๑๙๔.๒๕ บาท
(หนึ่งล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหกพันหนึ่งร้อยเก้าสิบสี่บาทยี่สิบห้าสตางค์)

หมายเหตุ ตัวเลขอย่างเป็นทางการจะสรุปได้ต่อเมื่อได้ปิดบัญชีทั้งสองกองทุนในวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๔ แล้วเท่านั้น

       เทศบาลตำบลเมืองแกลงขอขอบพระคุณทุกภาคส่วนที่ได้เสียสละทุนทรัพย์ เสียสละเวลาแม้จะต้องเผชิญความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าจากการทำงานกลางแดดตลอดหลายวันที่่ผ่านมา และจะได้ประสานงานนำเม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์ไปมอบแก่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ต่อไป ก่อนวันสงกรานต์ที่จะถึงนี้ โดยเมืองแกลงนิวส์จะยังคงทำหน้าที่สื่อข้อมูลข่าวสารถึงท่านทุกระยะต่อไป